คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์ว่ามิได้กระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตขึ้นมาด้วยแต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ของจำเลย แต่เมื่อโจทก์จำเลยสืบพยานมาจนสิ้นกระแสความแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงไปได้ โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2วินิจฉัยก่อน จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเพื่อแกล้งให้ผู้เสียหายต้องรับโทษ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 ประกอบ มาตรา 174 วรรคสอง ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผิดมาตรา 172,181(1) แล้วลงโทษตาม มาตรา 181(1) ไม่ถูกต้องเพราะคำว่า “เป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 181(1) หมายความว่ากรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดจะต้องมีอัตราโทษขั้นต่ำจำคุกสามปี แต่คดีนี้จำเลยแจ้งความเท็จว่าผู้เสียหายมีและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งมีระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี โทษขั้นต่ำไม่ถึงสามปี จำเลยจึงไม่ผิดมาตรา 181(1) แม้โจทก์จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาปรับบทการลงโทษจำเลยให้ถูกต้อง โดยไม่กำหนดโทษให้สูงขึ้นอีกได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,147, 172, 174, 179, 181 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 72
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1) ลงโทษจำคุก 6 เดือน มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 วรรคแรก ลงโทษจำคุก1 ปี และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179 ลงโทษจำคุก3 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 9 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์ว่ามิได้กระทำผิดแต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้วินิจฉัยในปัญหาข้อนี้ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ของจำเลย แต่เมื่อโจทก์จำเลยได้นำสืบพยานมาจนสิ้นกระแสความแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าวไปได้เองโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยชี้ขาดก่อนแล้วฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่าคืนเกิดเหตุผู้เสียหายมิได้นำอาวุธปืนติดตัวไปที่บ้านจำเลยและมิได้ทำอาวุธปืนหล่นที่หน้าบ้านจำเลย การที่จำเลยไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้เสียหายทำอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุนปืนบรรจุอยู่ 1 นัดตกอยู่หน้าบ้านจำเลย จึงเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเพื่อแกล้งให้ผู้เสียหายต้องรับโทษอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ประกอบมาตรา 174 วรรคสองเท่านั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 181(1) แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1) และศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนมานั้นไม่ถูกต้อง เพราะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1)ซึ่งบัญญัติว่า “ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 174(1) เป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป” นั้น คำว่า “เป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป”หมายความว่า กรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดจะต้องมีอัตราโทษขั้นต่ำของความผิดจำคุกสามปีเป็นอย่างน้อยที่สุด คดีนี้กรณีแห่งข้อหาว่าผู้เสียหายกระทำความผิดคือ การที่จำเลยแจ้งความเท็จว่าผู้เสียหายมีและพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี โทษขั้นต่ำไม่ถึงสามปี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 181(1)แม้โจทก์จำเลยจะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาปรับบทลงโทษจำเลยให้ถูกต้องโดยไม่กำหนดโทษจำเลยให้สูงขึ้นอีกได้ และในการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว จำเลยนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปมอบให้พนักงานสอบสวนด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าได้มีความผิดอาญาเกิดขึ้น จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179ซึ่งเป็นความผิดต่างกรรมจากการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 ประกอบมาตรา 174 วรรคสอง โดยลงโทษจำคุก 6 เดือนส่วนความผิดตามมาตรา 181(1) ให้ยก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share