คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นายทหารสั่งให้ทหารพลขับขับรถยนต์ของกรมทหารไปซื้อปูนซีเมนต์ขนไปให้วัดซึ่งนายทหารนั้นเป็นกรรมการวัดอยู่เป็นการใช้ให้ไปปฏิบัติงานเป็นการส่วนตัวของนายทหารผู้นั้น การไปปฏิบัติงานของทหารพลขับนั้นจึงเรียกไม่ได้ว่าเป็นการไปปฏิบัติงานในหน้าที่ตามทางราชการของกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม เมื่อทหารพลขับขับรถโดยประมาทชนผู้อื่นตายกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 เป็นบิดาและโจทก์ที่ 2 เป็นพี่ชายของนายเฉลิม คงทวี จำเลยที่ 1 รับราชการทหารสังกัดกองพลทหารม้าอยู่ใต้บังคับบัญชาและมีหน้าที่ทำตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 และ 3 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ตรากงจักรหมายเลข 30268 ของจำเลยที่ 2,3 ไปใช้ในราชการของจำเลยที่ 2,3 โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถยนต์แท็กซี่ซึ่งนายเฉลิมขับสวนทางมา รถแท็กซี่พังยับเยิน นายเฉลิมตาย นายเฉลิมเคยส่งเงินให้โจทก์ที่ 1 ใช้สอย และโจทก์ที่ 2 เสียค่าทำศพ 9,334 บาท ขอให้จำเลยทั้งสามชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น 81,334 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ประมาท ค่าเสียหายสูงเกินไป

จำเลยที่ 2,3 ให้การเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และต่อสู้ด้วยว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นตัวแทนและไม่ได้ขับรถนั้นไปตามหน้าที่ในราชการหรือตามคำสั่งของจำเลยที่ 2,3 แต่นำรถออกไปโดยมิได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจ และนำรถไปใช้ในกิจการส่วนตัวจำเลยที่ 2,3 ไม่ต้องรับผิด

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยที่ 2,3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2,3 ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งมีหน้าที่เป็นพลขับรถยนต์ของกองพลทหารม้า ได้รับคำสั่งจากพันโทเจิม เอี่ยมหงษ์เหิน พลาธิการกองพลทหารม้าให้ขับรถยนต์ของทางราชการไปซื้อปูนซีเมนต์นำไปส่งที่วัดนครป่าหมากซึ่งพันโทเจิมเป็นกรรมการวัดนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 ซื้อปูนซีเมนต์ส่งให้วัดแล้ว ระหว่างทางที่ขับรถกลับ จำเลยที่ 1 ขับรถแซงรถสามล้อเครื่องจนกินทางล้ำเส้นกึ่งกลางถนน เป็นเหตุให้ชนรถยนต์แท็กซี่ที่นายเฉลิมชัยสวนทางมานายเฉลิมถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาเห็นว่าแม้พันโทเจิมมีอำนาจในการสั่งใช้รถในงานของพลาธิการได้ตามระเบียบแต่การที่สั่งให้จำเลยที่ 1 นำรถออกไปซื้อและขนปูนซีเมนต์ให้แก่วัดนครป่าหมากซึ่งพันโทเจิมเป็นกรรมการวัดอยู่ด้วยนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นการใช้ให้ไปปฏิบัติงานเป็นการส่วนตัวของพันโทเจิม หาใช่การให้ไปปฏิบัติการในงานของพลาธิการ กองทหารม้าเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 2,3 แต่ประการใดไม่การไปปฏิบัติงานของจำเลยที่ 1 จึงเรียกไม่ได้ว่าเป็นการไปปฏิบัติงานในหน้าที่ตามทางราชการของจำเลยที่ 2 และที่ 3 จำเลยที่ 2 และ 3 จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่จำเลยที่ 1 ได้ก่อให้เกิดขึ้น

พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 เสีย

Share