แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดขอเรียกค่าเสียหายนั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่าจำเลยได้กระทำโดยจงใจหรือเลิ่นเล่อฟ้องนั้นก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า เดิมจำเลยชนะความนายเล่งเพียว จำเลยนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์นายเล่งเพียวแล้วได้เลยมายึดทรัพย์ของโจทก์ด้วย โจทก์ได้ร้องขัดทรัพย์ศาลแพ่งสั่งถอนการยึด คดีถึงที่สุด ในการที่จำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์ทำให้โจทก์เสียหายรวม ๒๒๐ บาท ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์.
ศาลชั้นต้นฟังว่าการที่จำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์ดังนั้นเป็นการละเมิด จึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑๙๐ บาทและเห็นว่าฟ้องโจทก์ดังกล่าวมานั้นโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยกระทำละเมิดแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาคัดค้านข้อหนึ่งว่า โจทก์หาว่าจำเลยกระทำการละเมิด แต่ฟ้องโจทก์ไม่บรรยายให้ชัดแจ้งว่ากระทำด้วยจงใจหรือประมาท เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๑๗๒ วรรค ๒ ไม่มีประเด็นที่จะสืบ ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นนั้นบรรยายข้อความชัดเจนพอที่จะถือว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำการละเมิดตาม ป.พ.พ.ม.๔๒๐ ถือว่าเป็นฟ้องอันสมบูรณ์ตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๑๗๒ วรรค ๒ แล้ว ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าจำเลยกระทำโดยจงใจหรือประมาทศาลล่างรับพิจารณามาชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตาม.