คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม โจทก์ไม่ได้นำมาชำระภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความวันรุ่งขึ้นโจทก์ยื่นคำร้องอ้างเหตุที่ไม่นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระตามคำสั่งศาลว่าเนื่องจากฝนตกหนัก การจราจรติดขัดมาก ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุขัดข้องให้พนักงานรับฟ้องทราบเมื่อเวลา 15 นาฬิกา และเดินทางมาถึงศาลเมื่อเวลา 17 นาฬิกา พนักงานศาลไม่ยอมรับค่าฤชาธรรมเนียม อ้างว่าศาลปิดทำการแล้ว โจทก์มิได้จงใจทิ้งฟ้อง เป็นเหตุสุดวิสัย ขอให้ศาลไต่สวนอนุญาตให้โจทก์วางเงินค่าธรรมเนียมและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ดังนี้ แม้ศาลชั้นต้นจะได้สั่งจำหน่ายคดีโดยเห็นว่าโจทก์ทิ้งฟ้องไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มายื่นคำร้องแสดงเหตุอันสมควร ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์เพื่อทราบข้อเท็จจริง และถ้าเห็นว่าโจทก์มีพฤติการณ์พิเศษและเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งเพิกถอนคำสั่งที่สั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความนั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และขยายระยะเวลาให้แก่โจทก์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2532)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยรับไถ่ที่ดินที่โจทก์ขายฝาก จำเลยให้การว่า ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์แล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ให้งดสืบพยานโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืน
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ ก่อนถึงวันนัด จำเลยยื่นคำร้องว่า คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพียง ๒๐๐ บาท ยังขาดอยู่ ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม โจทก์ยื่นคำร้องของดเว้นไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง หากโจทก์ยังติดใจจะดำเนินคดี ให้นำค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน ๑๐ วัน โจทก์ไม่นำไปชำระภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ วันรุ่งขึ้น โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวน อนุญาตให้โจทก์วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ทิ้งฟ้องไม่มีกฎหมายให้อำนาจศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้ ให้ยกคำร้อง คืนค่าคำร้องแก่โจทก์
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของโจทก์ไว้ทำการไต่สวนและมีคำสั่งต่อไปตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ยื่นคำร้องอ้างเหตุที่ไม่นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระตามคำสั่งศาลว่าเนื่องจากฝนตกหนักการจราจรติดขัดมาก ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุขัดข้องให้พนักงานรับฟ้องทราบเมื่อเวลา ๑๕ นาฬิกา และเดินทางมาถึงศาลเมื่อเวลา ๑๗ นาฬิกา พนักงานศาลไม่ยอมรับค่าฤชาธรรมเนียม อ้างว่าศาลปิดทำการแล้ว โจทก์มิได้จงใจทิ้งฟ้อง เป็นเหตุสุดวิสัย ขอให้ศาลไต่สวนอนุญาตให้โจทก์วางเงินค่าธรรมเนียมและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป คดีมีข้อวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นจะดำเนินกระบวนพิจารณาตามคำร้องของโจทก์ดังกล่าวได้หรือไม่ จำเลยฎีกาว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ทิ้งฟ้องแล้ว จึงไม่มีคดีของโจทก์ที่จะให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ต่อไปอีกได้ และข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ ก็ไม่ใช่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัย พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความนั้น ศาลชั้นต้นไม่ได้ทราบถึงเหตุขัดข้องที่โจทก์นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระไม่ทันตามกำหนด หากศาลชั้นต้นทราบเหตุดังกล่าวและเห็นว่าเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ ศาลก็อาจจะไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและไม่สั่งจำหน่ายคดีเสียก็ได้ ศาลฎีกาได้พิจารณาปัญหานี้โดยที่ประชุมใหญ่แล้วเห็นว่า แม้ศาลชั้นต้นจะได้สั่งจำหน่ายคดีโดยเห็นว่าโจทก์ทิ้งฟ้องไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มายื่นคำร้องแสดงเหตุอันสมควร ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์เพื่อทราบข้อเท็จจริง และถ้าเห็นว่าโจทก์มีพฤติการณ์พิเศษและเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งเพิกถอนคำสั่งที่สั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความนั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗ และขยายระยะเวลาให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share