แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่พิพาทเป็นที่ดินมีโฉนด แม้สามีโจทก์ซึ่งตายไปแล้วและโจทก์จะได้รับมรดกและครอบครองมาเกิน 1 ปี แต่เมื่อยังครอบครองไม่ถึง 10 ปี โจทก์ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์และเมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้เป็นภรรยาโดยชอยด้วยกฎหมายด้วย โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะยกอายุความมรดก 1 ปีอ้างยันต่อจำเลยซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางอิ่มได้ยกที่ดินให้นายเขียนสามีโจทก์และจำเลยที่ ๑, ๒ และ ๓ ต่างได้ครอบครองเป็นส่วนสัด โจทก์และสามีได้ครอบครองร่วมกันมาจนกระทั้งสามีโจทก์ตาย โจทก์ได้ครอบครองต่อมาเป็นเวลา ๒๐ ปีเศษ เมื่อนางอิ่มตายไป ๗ ปีแล้ว จำเลยที่ ๑,๒ และ ๓ ได้ยอมให้จำเลยที่ ๔ ไปลงชื่อรับมรดกโดยไม่มีสิทธิ เพราะการรับมรดกของจำเลยที่ ๔ ขาดอายุความแล้ว โจทก์ขอให้ลงชื่อโจทก์รับมรดกร่วมกับจำเลยทั้งสี่ตามส่วนที่ครอบครองอยู่ จำเลยไม่ยอม ขอให้ศาลแสดงว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามฟ้อง และให้โจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินในโฉนดตามส่วนที่โจทก์ครอบครอง
จำเลยสู้ว่า นางอิ่มมิได้ยกนาพิพาทให้นายเขียนและโจทก์ นายเขียนและโจทก์ขออาศัยทำนาพิพาทจากจำเลยเพียง ๓ ปี มิได้ครอบครองเป็นส่วนสัดดังฟ้อง จำเลยทุกคนครอบครองที่ดินโฉนดพิพาทอยู่ โจทก์และนายเขียนมิได้ครอบครองภายในอายุความมรดกสิทธิในทางมรดกของนายเขียนและโจทก์จึงขาดอายุความ นายเขียนกับโจทก์เป็นสามีภรรยากันโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิทางมรดก และไม่มีสิทธิยกอายุความมรดกขึ้นต่อสู้กับจำเลยซึ่งเป็นทายาทนางอิ่ม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเชื่อว่านางอิ่มยกนาพิพาทให้จำเลยที่ ๔ โจทก์และสามีได้ไปขอทำนาพิพาทจากจำเลยที่ ๔ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า นางอิ่มให้โจทก์อาศัยทำนาพิพาท มิได้ยกกรรมสิทธิ์ให้พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่านางอิ่มได้ยกนาพิพาทให้นายเขียนสามีโจทก์หรือตัวโจทก์ และเชื่อว่านายเขียนกับโจทก์อาศัยทำกิน นายเขียนและโจทก์พึ่งแสดงตัวว่าถือสิทธิครอบครองเมื่อนางอิ่มตายลง แม้จะถือว่านายเขียนรับมรดกที่นาพิพาทจากนางอิ่มและร่วมกับโจทก์ครอบครองเป็นเจ้าของมาเกิน ๑ ปีแล้วแต่การครอบครองของโจทก์ยังไม่ถึง ๑๐ ปี และโจทก์มิได้เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเขียน โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะยกอายุความมรดก ๑ ปี อ้างยันต่อจำเลยซึ่งเป็นทายาทของนางอิ่มได้ โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่มีทางชนะคดีได้
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.