คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำการสมรสโดยมิได้จดทะเบียน การสมรสนั้นจึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย บุตรที่เกิดมาจึงเป็นบุตรนอกสมรสของโจทก์ เมื่อโจทก์ยังมิได้จดทะเบียนรับรองว่าเป็นบุตรตาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1526 แล้ว โจทก์จึงมิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตร อำนาจปกครองจึงตกอยู่แก่มารดาตามมาตรา 1538(5) และมารดาเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องผู้ที่ทำให้บุตรตาย
บุตรนอกสมรสที่บิดายังมิได้จดทะเบียนรับรองบุตร แต่มีพฤติการณ์เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าเป็นบุตรนั้น มาตรา 1627 บัญญัติให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเสมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิเพียงรับมรดกบิดาได้ตามมาตรา 1629(1) เท่านั้น ส่วนบิดาไม่มีกฎหมายบัญญัติให้มีสิทธิและหน้าที่ต่อบุตรนอกสมรสที่ยังมิได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรแต่ประการใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้เยาว์และเป็นบุตรจำเลยที่ ๒ ทำปืนลั่นถูกบุตรีโจทก์ตายโดยประมาทขาดความระมัดระวัง และจำเลยที่ ๒ ไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดร่วมกับจำเลยที่ ๑ ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ผู้ตายไม่ได้เป็นบุตรโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะมารดาผู้ตายไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับโจทก์ปืนลั่นโดยอุบัติเหตุ จำเลยที่ ๒ ได้ใช้ความระมัดระวังเหมาะสมกรณีแล้ว ไม่ต้องรับผิด จำเลยที่ ๒ ได้ช่วยเงินโจทก์เพื่อทำบุญและทำศพตามความเหมาะสมแก่ฐานานุรูปของผู้ตายแล้ว รายการที่โจทก์เรียกร้องเกินความจำเป็น และโจทก์ฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ผู้ตายเป็นบุตรโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมายโจทก์มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จำเลยที่ ๒ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังดูแลตามสมควรแก่หน้าที่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ค่าสินไหมทดแทนเห็นควรจ่ายเพียงเท่าที่ศาลกำหนดให้
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ ๒ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ค่าสินไหมทดแทนเห็นควรให้ตามที่ศาลอุทธรณ์กำหนด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กับมารดาผู้ตายแต่งงานกันโดยมิได้จดทะเบียน การสมรสจึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๔๙ ผู้ตายจึงเป็นบุตรนอกสมรส เมื่อโจทก์ยังมิได้จดทะเบียนรับรองว่าเป็นบุตรตามมาตรา ๑๕๒๖ แล้วโจทก์จึงมิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย อำนาจปกครองผู้ตายก่อนตายจึงอยู่แก่มารดาตามมาตรา ๑๕๓๘(๕) และมารดาเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมตามมาตรา ๑๕๔๑ วรรคแรก โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง บุตรนอกสมรสที่บิดายังมิได้จดทะเบียนรับรองบุตรแต่มีพฤติการณ์เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าเป็นบุตรนั้น มาตรา ๑๖๒๗ บัญญัติให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเสมือนเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิเพียงรับมรดกบิดาได้ตามมาตรา ๑๖๒๙(๑) เท่านั้น ส่วนบิดาไม่มีกฎหมายบัญญัติให้สิทธิและหน้าที่ต่อบุตรนอกสมรสที่ยังไม่ได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร และจำเลยไม่ควรใช้ค่าปลงศพเพิ่มขึ้นดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share