คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กู้เงินกันแล้วผู้กู้มอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ให้กู้ครอบครองและเก็บผลประโยชน์จากที่ดินนั้นการยึดถือที่ดินของผู้ใหด้กู้ตามลักษณดังนี้เป็นทรัพยสิทธิอย่างหนึ่ง เมื่อมิได้นำไปจดทะเบียนย่อมเป็นโมฆะใช้บังคับกันมิได้ ต้องคืนที่ให้ผู้กู้สิทธิเก็บกิน
ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 178 149
ฟ้องแย้ง
ค่าธรรมเนียม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าบิดาโจทก์ทำหนังสือกู้เงิน ม. ไป ๘๐ บาท มอบที่นารายพิพาทพร้อมทั้งโฉนดสำหรับที่ให้ยึดถือทำกินแทนเงินกู้ บัดนี้บิดาโจทก์และ ม. ตายแล้วโจทก์ผู้รับมฤดกบิดาได้นำเงิน ๘๐ บาทไปชำระให้จำเลยผู้รับมฤดก ม.แล้ว และขอรับโฉนดคืน อ้างว่าเป็นหนี้อยู่ ๘๐๐ บาท จึงขอบังคัลให้จำเลยมอบที่ดินและโฉนดให้โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมฤดก ม. ถ้าโจทก์ต้องการนำเงิน ๘๐๐ บาท ชำระก่อน
ศาลฎีกาตัดสินว่าสิทธิยึดที่ดินของผู้อื่นไว้ในครอบครองเพื่อเก็บประโยชน์เช่นนี้เป็นทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่งตามประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๒๙๙ ต้องจดทะเบียน เมื่อข้อความในสัญญาตอนที่ว่ามอบที่ดินให้เจ้าหนี้เก็บกินรายนี้ไม่ได้จดทะเบียนแล้วย่อมเป็โมฆะบังคับกันมิได้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึอที่ดินของ โจทก์ไว้เก็บกินต่อไป ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว ส่วนในเรื่องหนี้สินที่โจทก์ จำเลยเถียงกันในเรื่องจำนวนเงินหนี้สินนั้นเมื่อจำเลยมิได้ฟ้องแย้งมาและมิได้เสียค่าธรรมเนียมขึ้นมา จึงไม่วินิจฉัยถึงแต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยคืนที่ดินให้โจทก์ตามศาลเดิม

Share