คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับจำเลย ขอให้ศาลแบ่งครึ่งระหว่างโจทก์, จำเลย ๆ ว่าได้ปกครองเป็นส่วนสัดขอให้แบ่งตามส่วนที่ปกครองมา ศาลฎีกาเห็นว่าในที่พิพาทมีทั้งที่ ๆ ปลูกบ้าน และที่สวน สำหรับที่บ้านโจทก์,จำเลยปกครองเป็นส่วนสัดกันมาต้องแบ่งตามที่ปกครอง โดยถือลำคูเป็นเขตต์ ส่วนที่สวนหลังบ้านต่างยังปกครองร่วมกันอยู่ ฉะนั้นส่วนในการเป็นเจ้าของๆ โจทก์จำเลยยังคงมีอยู่คนละครึ่งในที่ดินพิพาททั้งแปลงนั้น จึงให้แบ่งให้โจทก์,จำเลยคนละเท่า ๆ กัน โดยให้ถือแนวกลางอู่หรือคู จากคลองยืนขึ้นมาทางเหนือแล้วหักมุมตามแนวกลางคู หรือร่องสวนไปทางทิศตะวันออกจนถึงจุด ๆ หนึ่ง ซึ่งเมื่อลากเส้นขนานกับเขตต์ที่ดินด้านทิศตะวันตกจากจุดนั้นไปทางทิศเหนือ จนจดเขตต์ทางด้านทิศเหนือแล้ว ที่ดินทั้งสองจะมีเนื้อที่แปลงละ 3 งาน 46 วา 2 ศอก หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนเนื้อที่ทั้งหมดเท่า ๆกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินจากจำเลย ซึ่งมีเนื้อที่ ๑ ไร่ ๓ งาน ๒๘ วา โดยอ้างว่าปกครองร่วมกันมา ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง เนื้อที่ ๓ าน ๒๔ วา จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทต่างแยกกันปกครองเป็นส่วนสัด ต้องเป็นไปตามส่วนที่ปกครอง ศาลชั้นต้นสั่งทำแผนที่ แล้วพิจารณาฟังว่า โจทก์,จำเลยปกครองที่พิพาทร่วมกัน ยังมิได้แบ่ง พิพากษาให้แบ่งเป็น ๒ ส่วนเท่า ๆ กัน ทางด้านตะวันตกได้แก่โจทก์ ทางด้านตะวันออกได้แก่จำเลย มีเนื้อที่ส่วนละ ๓ งาน ๔๖ ตารางวา ๒ ศอก ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์จำเลยได้ครอบครองที่เป็นส่วนสัดสืบต่อมาจากมารดาช้านาน โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่งพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาฟังว่า ที่ที่ปลูกบ้านเรือนอยู่ตั้งแต่ด้านที่ติดลำคลองเข้าไปนั้น มารดาโจทก์จำเลยได้ปกครองเป็นส่วนสัดโดยถือลำคูเป็นเขตต์กั้นมาช้านาน ควรให้แบ่งกันตามนั้น ส่วนที่สวนตอนหลังบ้านฟังได้ว่า ได้ปกครองเก็บผลประโยชน์ร่วมกันมาโดยมิได้ถือคูกั้นเป็นเขตต์ คูคั่นเป็นเขตต์ที่ใช้เป็นอู่เรือนั้นจึงเป็นแต่เพียงตอนหน้าที่ปลูกบ้าน ที่จำเลยครอบครองเป็นส่วนสัดมาจึงเป็นแต่เพียงตอนหน้า คือตอนจากคลองเข้าไปแล้วหักเลี้ยวไปตามร่องสวนชิดเรือนจำเลยทางด้านทิศเหนือ เห็นว่า ส่วนแห่งความเป็นเจ้าของของโจทก์จำเลยยังคงมีอยู่คนละครึ่งในที่ดินนั้นทั้งแปลง จึงพิพากษากลับ ให้แบ่งทรัพย์สินอันโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของร่วมกันนี้คนละเท่า ๆ กัน โดยให้ถือแนวกลางอู่จากคลองยืนขึ้นไปทางเหนือ แล้วหักมุมตามแนวกลางคู หรือร่องสวนไปทางทิศตะวันออก จนถึงจุด ๆ หนึ่ง ซึ่งเมื่อลากเส้นขนานกับเขตต์ที่ดินด้านทิศตะวันตกจากจุดนั้นไปทางทิศเหนือ จนจดเขตต์ด้านทิศเหนือแล้ว ที่ดินทั้ง ๒ แปลงจะมีเนื้อที่แปลงละ ๓ งาน ๔๖ วา ๒ ศอก หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนเนื้อที่ทั้งหมด ถ้าคู่ความกำหนดแบ่งเขตต์กันเอง ไม่ตกลงให้เจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินเป็นผู้รังวัดตามนัยดังกล่าวข้างต้น

Share