คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เคยพิพาทกันเรื่องพินัยกรรม์และได้ส่งต้นฉะบับพินัยกรรมต่อศาล คู่ความในคดีนั้นได้ขอคืนไปจากศาลแล้วตัวก็มาตาย เป็นอันเรียกมาเป็นพะยานในคดีใหม่ไม่ได้ แต่คงมีสำเนาอยู่ในสำนวนแม้ในสำเนาฉะบับนั้น จะมิได้มีลายเซ็นชื่อรับรองไว้ก็ดี ทนายความผู้คัดสำเนาพินัยกรรม์ฉะบับนั้น ก็ได้มาเบิกความยืนยันว่าพะยานได้คัดถูกต้องตรงกับต้นฉะบับแล้ว ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่าสำเนาพินัยกรรม์นั้นเป็นสำเนาอันถูกต้อง ตรงกับต้นฉะบับแล้ว

ย่อยาว

นางจีบ ในฐานะเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของนายสมทบ ด.ช.เฉลิม, ด.ช.มณฑา, และด.ญ.แดง เป็นโจทก์ฟ้องว่าเด็กดังกล่าวเป็นบุตรนายเฟื่อง นางเมี้ยน จำเลยเป็นบุตรนางเฟื่อง นางแมน นายเฟื่องวายชนม์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ มีทรัพย์มฤดกรวมราคา ๑๒๐๐๐ บาท จึงขอแบ่งทรัพย์มฤดกเป็น ๕ ส่วน ให้โจทก์คนละส่วน รวม ๔ ส่วน เป็นเงิน ๙๖๐๐ บาท จำเลยให้การต่อสู้ว่าทรัพย์อันดับ ๑ เป็นเรือนหอของนายเฟื่องครั้งแต่งานกับนายแม้นมารดาจำเลย เมื่อมารดาจำเลยตาย นายเฟื่องได้ยกเรือนให้จำเลยแล้ว ส่วนทรัพย์อันดับ ๒-๓ เป็นโฉนดที่ดิน มีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของอยู่ครึ่งหนึ่ง เป็นมฤดกนายเฟื่องครึ่งหนึ่ง นายเฟื่องได้ทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์รายนี้ให้แก่จำเลยโดยเด็ดขาดแล้ว นางจีบไม่เคยครอบครองทรัพย์รายนี้แทนโจทก์เลย คดีขาดอายุความแล้ว
ระหว่างพิจารณา นางจีบวายชนม์ นายสวัสดิ์บุตรนางจีบร้องขอเข้าเป็นโจทก์แทน
ศาลชั้นต้นฟังว่า ทรัพย์อันดับ ๑ เป็นกองมฤดกทั้งหมดทรัพย์อันดับ ๒, – ๓ เป็นของจำเลยกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งเป็นกองมฤดก ทรัพย์ที่เป็นมฤดกให้แบ่งเป็น ๕ ส่วน ได้แก่ โจทก์, จำเลยคนละส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำเนาพินัยกรรม์ที่จำเลยอ้างในคดีนี้ ปรากฎว่าต้นฉะบับพินัยกรรม์ซึ่งได้เคยพิพาทกันในคดีแดง ที่ ๔๐/๒๔๘๕ นายจูได้ขอคืนไปจากศาลแล้วตัวก็มาตาย เป็นอันเรียกมาเป็นพะยานไม่ได้ แต่ได้มีสำเนาอยู่ในสำนวน แม้สำเนาฉะบับนั้นจะมิได้มีลายเซ็นชื่อรับรองไว้ก็ดี แต่นายเชยทนายความผู้คัดสำเนาฉะบับนั้นมาเบิกความยืนยันว่า พะยานได้คัดถูกต้องตรงกับต้นฉะบับนั้นแล้ว จึงฟังได้ว่าสำเนาพินัยกรรม์ถูกต้องตรงกับต้นฉะบับ จึงต้องฟังว่าทรัพย์รายพิพาทที่ระบุไว้ในพินัยกรรม์ยกให้แก่จำเลยแล้ว คดีของโจทก์ต้องตกไป พิพากษาเลย ให้ยกฟ้อง

Share