คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้สั่งจ่ายสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้าให้แก่ผู้รับเงินตามเช็คไปโดยไม่ใช่เพื่อชำระหนี้ให้แก่ผู้รับเงินตามเช็ค แต่มีข้อสัญญาว่าผู้รับเช็คจะนำเงินเข้าธนาคารให้ผู้สั่งจ่ายก่อนถึงกำหนดวันที่ตามเช็คเช่นนี้ กรณีระหว่างผู้สั่งจ่ายเช็คกับผู้รับเงินตามเช็คโดยตรงจึงเป็นเรื่องสัญญาต่างตอบแทน ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อกลางเดือนตุลาคม 2494 จำเลยได้จ่ายเช็คฉบับหนึ่งสั่งธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัดให้จ่ายเงินหนึ่งแสนบาทเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์เช็คลงวันที่ 31 ตุลาคม 2494 ครั้นวันที่ 5 มกราคม 2495 โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายซึ่งหมายความว่าไม่มีเงินพอจ่าย โจทก์ทวงถามจำเลยก็ผัดเรื่อยมาจึงขอให้จำเลยใช้เงินพร้อมทั้งค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยได้จ่ายเช็คให้โจทก์เพราะโจทก์ขอเพื่อจะนำเช็คของจำเลย ซึ่งโจทก์อ้างว่ามีหลักฐานมีคนเชื่อถือไปซื้อสินค้า โจทก์จำเลยไม่เคยมีหนี้สินกัน โจทก์ว่าถึงวันกำหนดจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยจะเอาเงินไปเข้าธนาคาร หลังจากวันครบกำหนดจ่ายเงินแล้ว โจทก์แจ้งว่าไม่ได้ใช้เช็คและว่าทำลายเช็คแล้ว

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 987 ประกอบด้วย มาตรา 989 และ 914 จำเลยผู้ออกเช็คจำต้องรับผิดใช้เงินให้แก่ผู้ทรงในเมื่อเช็คถูกธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน การจ่ายเงินตามเช็คไม่จำต้องมีหนี้ต่อกันข้อแก้ตัวของจำเลยแม้เป็นความจริง ก็ชอบจะว่ากล่าวกันเป็นอีกกรณีหนึ่ง จึงพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คให้แก่โจทก์ พร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ่ายเช็คให้เพื่อชำระหนี้แต่จำเลยให้การว่ามิใช่เป็นการจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ แต่เป็นการจ่ายล่วงหน้าโดยอ้างว่าถึงวันกำหนดโจทก์จะนำเงินเข้าธนาคารให้จำเลยจึงจ่ายเช็คให้ไป เป็นเรื่องต่างตอบแทนกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369คดีนี้พิพาทกันระหว่างจำเลยผู้สั่งจ่ายกับโจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรง โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ด้วย ตามลักษณะสัญญาต่างตอบแทน จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองเสีย ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่

Share