คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปกครองแทนกันปกครองปรปักษ์

ย่อยาว

ได้ความว่าที่พิพาทเปนมฤดกได้แก่จำเลยและ จ.มารดาโจทก์ที่ ๑-๒ และเปนยายโจทก์ที่ ๓ เมื่อเจ้าพนักงานออกโฉนด จ.ไปอยู่เสียที่อื่น จำเลยได้ลงชื่อ จ.กับจำเลยเปนเจ้าของที่พิพาทร่วมกัน ส่วนโฉนดจำเลยเปนผู้เก็บไว้ แต่ จ.ไม่ได้ปกครองอยู่ในที่นี้ ครั้น จ.ตายแล้วจำเลยก็ยินยอมให้ทายาทของ จ.อยู่ในที่นี้ได้ด้วย และก่อนเกิดคดีนี้ โจทก์ได้ตกลงจะทำสัญญาขายที่ดินส่วนของ จ.ให้บุตร์จำเลย ๆ ก็มิได้คัดค้านยินยอมให้ขายและให้โจทก์เอาโฉนดไปประกาศรับมฤดก จ. ภายหลังเกิดมีความแก่งแย่งระวางโจทก์กับบุตรืจำเลยการซื้อขายจึงไม่ตกลงกัน จำเลยจึงได้ร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานว่าที่ดินเปนของจำเลยปกครองมาฝ่ายเดียวดังนี้
ศาลเดิมเห็นว่า จำเลยได้ปกครองแทน จ.และทายาทของ จ.ตลอดมา หาได้ปกครองโดยอำนาจปรปักษ์อย่างใดไม่ จึงตัดสินให้โจทก์เปนผู้รับมฤดกส่วนของ จ.ในที่พิพาทนั้น
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพฤติการณ์ของจำเลยต้องถือว่าจำเลยปกครองแทน จ.ตามฎีกาที่ ๘/๑๒๑ และการที่จำเลยยินยอมให้ทายาทของ จ.แสดงตนเปนเจ้าของร่วมด้วยนั้น ถึงจำเลยจะปกครองนานเท่าใด ก็ฟังไม่ได้ว่าจำเลยปกครองปรปักษ์ จึงตัดสินยืนตามศาลเดิม

Share