แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยได้ทำร้ายนายตี่หวิ่งต๊ะแล้วจำเลยก็มุ่งหน้าไปทางในเมือง นายชื่นสมาชิกสภาตำบลและเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้ดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณงานวัด ได้ชักชวนผู้เสียหายกับบุคคลอื่นอีกไปตามตัวจำเลยเพื่อจับไว้ก่อน และเมื่อเลยวัดไปประมาณ 15 วาก็ทันจำเลย นายชื่นร้องบอกให้จำเลยกลับก่อน จำเลยได้ยินก็กลับมา นายชื่นบอกว่าจะขอควบคุมตัวเพราะจำเลยฟันนายตี่หวิ่งต๊ะ จำเลยไม่พูดตอบแต่ถือมีดรี่เข้ามา ผู้เสียหายเห็นท่าไม่ดีเลยคว้ากระบอกไม้ไผ่ถือไว้จำเลยตรงรี่เข้าหาผู้เสียหายๆ ก็เอาไม้ตีที่มีด แต่มีดไม่หลุดจากมือจำเลย และไม้ที่ผู้เสียหายตีมีดนั้นหัก จำเลยได้ใช้มีดแทงผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เช่นนี้จำเลยจะแก้ตัวว่ากระทำร้ายผู้เสียหายเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ เพราะแม้ผู้เสียหายกับพวกตามจำเลยมาเพื่อจะจับจำเลยก็ดี จำเลยไม่ได้หยุดอยู่เฉยๆ หรือบอกกล่าวว่าไม่ควรถูกจับกุมประการใด การที่จำเลยถือมีดตรงรี่เข้าไปทางผู้เสียหายกับพวกแสดงว่าจำเลยจะเข้าต่อสู้ทำร้ายเขาโดยฝ่ายผู้เสียหายยังไม่ได้ลงมือกระทำการที่จะเข้าจับตัวจำเลยประการใดเลย จึงยังไม่มีกรณีจำเป็นที่จำเลยจะป้องกัน ในกรณีเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาที่ว่า พวกผู้เสียหายมีอำนาจจับจำเลยหรือไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2503)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 ศอกเศษ แทงนายใจคำได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297ริบของกลางและนับโทษต่อ
จำเลยต่อสู้ว่า เป็นการทำเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 จำคุก 1 ปี และให้นับโทษต่อ ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าเมื่อจำเลยได้ทำร้ายนายตี่ หวิ่งต๊ะแล้ว
จำเลยก็มุ่งหน้าไปทางในเมืองนายชื่นสมาชิกสภาตำบลและเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้ดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณงานวัด ได้ชักชวนนายใจคำผู้เสียหายกับบุคคลอื่นอีก ไปตามตัวจำเลยเพื่อจับไว้ก่อน และเมื่อเลยวัดไปราว 15 วา ก็ทันจำเลยนายชื่นร้องบอกให้จำเลยกลับก่อนจำเลยได้ยินก็กลับมา นายชื่นบอกว่าจะขอควบคุมตัวเพราะจำเลยฟันนายตี่ หวิ่งต๊ะ จำเลยไม่พูดตอบแต่ถือมีดรี่เข้ามา นายใจคำเห็นท่าไม่ดีเลยคว้ากระบอกไม้ไผ่ถือไว้ จำเลยรี่เข้าหานายใจคำ ๆ ก็เอาไม้ตีที่มีดแต่มีดไม่หลุดจากมือจำเลย และไม้ที่นายใจคำตีมีดนั้นหัก จำเลยได้ใช้มีดแทงนายใจคำผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส
ปัญหามีว่า จำเลยได้กระทำร้ายนายใจคำผู้เสียหายเป็นการที่จำเลยกระทำโดยป้องกันหรือไม่ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ผู้เสียหายกับพวกตามจำเลยมาเพื่อจะจับจำเลยก็ดี จำเลยไม่ได้หยุดอยู่เฉย ๆ หรือบอกกล่าวว่าไม่ควรถูกจับกุมประการใด กลับถือมีดตรงรี่เข้าไปทางผู้เสียหายกับพวก แสดงการจะเข้าต่อสู้ทำร้ายเขา โดยฝ่ายผู้เสียหายยังไม่ได้ลงมือกระทำการที่จะเข้าจับตัวจำเลยประการใดเลย ยังไม่มีกรณีจำเป็นที่จำเลยจะป้องกัน ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาที่ว่าพวกผู้เสียหายมีอำนาจจับหรือไม่ การที่นายใจคำผู้เสียหายใช้ไม้ตีมีดที่จำเลยถือมาจะทำร้ายนั้น เป็นการที่นายใจคำป้องกันตัวเสียด้วยซ้ำ แม้จำเลยจะมีบาดเจ็บก็เป็นการที่จำเลยถูกทำร้าย เมื่อจำเลยได้ทำร้ายร่างกายนายใจคำล้มสิ้นสติไปแล้ว หาเป็นข้อแก้ตัวของจำเลยให้จำเลยไม่มีความผิดได้ไม่ศาลฎีกาประชุมใหญ่มีมติว่า ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่ากระทำร้ายนายใจคำเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้
ศาลฎีกาพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น