แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พยานหลักฐานอื่นแสดงว่าจำเลยได้กระทำผิดในวันที่โจทก์หา แต่พยานโจทก์เบิกความถึงวันเกิดเหตุผิดไป 1 วันเพราะความหลงลืม เนื่องจากพยานเบิกความภายหลังวันเกิดเหตุหลายสิบวัน ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2490 ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254, 63 จำเลยให้การภาคเสธว่า ทำโดยป้องกันตัว ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานโจทก์เบิกความว่าเหตุเกิดวันที่ 22 กันยายน 2490 จึงถือไม่ได้ว่า ในวันโจทก์หาได้มีการกระทำผิด พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานโจทก์จำวันผิดไป จำเลยไม่หลงข้อต่อสู้พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ชี้ขาดข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้เสียหาย นายฉัน นายประจวบพยานโจทก์เบิกความว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ประมาณเดือนกว่ามาแล้ว ส.ต.ท.อำพลพยานโจทก์ว่า พยานได้ให้ตำรวจจับจำเลยทั้งสองในวันที่ 23 กันยายน จึงเชื่อว่าเหตุเกิดวันที่ 23 หาใช่วันที่ 22 ดังผู้เสียหาย นายฉันนายประจวบเบิกความไม่ พยานโจทก์เบิกความผิดไป 1 วันน่าจะเป็นเพราะหลงลืม เพราะเบิกความภายหลังเกิดเหตุหลายสิบวัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
พิพากษายืน