คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

(อุทธรณ์อ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อสำคัญแห่งคดีขัดแย้งและฝ่าฝืนต่อคำพยานหลักฐานในท้องสำนวน เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกไปจากที่ปรากฏในสำนวน หรือยกเอาเรื่องนอกสำนวนขึ้นวินิจฉัย หากแต่ศาลชั้นต้นยกเอาถ้อยคำของพยานโจทก์เหล่านั้นขึ้นมาประกอบเป็นข้อวินิจฉัยว่าคำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความจริงตามฟ้องของโจทก์ ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์ย่อมเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันฉ้อโกงโจทก์ โดยใช้อุบายหลอกลวงให้โจทก์ตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน โจทก์หลงเชื่อจึงให้เงินเป็นมัดจำแก่จำเลยไป แล้วต่อมาจำเลยกลับโอนที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้อื่นไป ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 83

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งมีมูล ประทับฟ้องเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 ยกฟ้องตัวจำเลยที่ 2

จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 มิได้มีเจตนาทุจริตมาแต่แรกยังไม่เป็นการฉ้อโกงโจทก์ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า แม้โจทก์จะพยายามดัดแปลงให้เป็นข้อกฎหมายอย่างไรก็ตาม อุทธรณ์ของโจทก์ทุกข้อก็เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 จึงไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ. 2499 มาตรา 22ให้ยกคำร้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยฎีกาของโจทก์สรุปเป็นความสำคัญได้ประการเดียวว่า โจทก์อ้างว่าอุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายก็เพราะศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อสำคัญแห่งคดีขัดแย้งและฝ่าฝืนต่อคำพยานหลักฐานในท้องสำนวนเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ ศาลฎีกาได้ตรวจคำเบิกความของพยานโจทก์จำเลยโดยตลอดแล้ว เห็นว่าศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกไปจากที่ปรากฏในท้องสำนวน หรือยกเอาเรื่องนอกสำนวนขึ้นมาวินิจฉัยให้ขัดแย้งหรือฝ่าฝืนต่อพยานหลักฐานในท้องสำนวนประการใดเลย หากแต่ศาลชั้นต้นยกเอาถ้อยคำของพยานโจทก์เหล่านั้นขึ้นมาประกอบเป็นข้อวินิจฉัยว่า คำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวแล้วมีเหตุผลไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความจริงดังที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลย คดีของโจทก์จึงต้องถูกยกฟ้องด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลล่างทั้งสองที่วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share