แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 3 คนมาพบผู้ตายกับพวกกำลังขนบุหรี่ ได้พากันไปพูดจาซื้อขายบุหรี่ แล้วพวกของจำเลยคนหนึ่งได้ใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย และได้ร่วมกันลักเอาบุหรี่ของผู้ตายไป แต่ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รู้เห็นเป็นใจหรือร่วมด้วยในการที่พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงมีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยทั้งสองกับพวกอีก ๓ คน  ใช้ปืนยิงนายวงศ์ตายโดยเจตนาฆ่า  และเพื่อความสะดวกในการที่จำเลยกับพวกจะลักทรัพย์ของนายวงศ์  แล้วได้ปล้นเอาบุหรี่ของนายวงศ์ไป  ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๓๔๐, ๘๓
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคท้าย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๗)
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า  จำเลยทั้งสองกับพวกอีก ๓ คน  ได้มาพบนายวงศ์ผู้ตายกับพวกกำลังขนบุหรี่ออกจากที่ซ่อนในป่า  จำเลยกับพวกและผู้ตายกับพวกได้พากันไปพูดจาซื้อขายบุหรี่ที่ในห้างไร่  แล้วพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย  เมื่อผู้ตายถูกยิงและพวกของผู้ตายหนีไปแล้ว  จำเลยกับพวกก็ได้หายไปจากห้างไร่ที่เกิดเหตุพร้อมด้วยบุหรี่ของผู้ตาย  ศาลฎีกาเห็นว่า  ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รู้เห็นเป็นใจหรือร่วมด้วยในการที่พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย  การยิงผู้ตายจึงเป็นการกระทำของพวกจำเลย  ผู้ที่ยิงนั้นแต่เฉพาะตัว  จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  แต่การที่จำเลยกับพวกได้หายไปพร้อมด้วยบุหรี่ของผู้ตาย  ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันลักเอาบุหรี่ของผู้ตายนั้นด้วย  ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๗)  ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน

