คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุตรที่เกิดนอกสมรสจะกลายเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาได้ ต้องเป็นไปตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1526แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เท่านั้น
บุตรที่เกิดนอกสมรสซึ่งบิดาไปแจ้งทะเบียนคนเกิดว่าเป็นบุตร และได้อุปการะเลี้ยงดูอย่างบุตรโดยเปิดเผยนั้นเป็นเพียงบุตรที่บิดาได้รับรองแล้วตามมาตรา 1627 ซึ่งมีสิทธิจะได้รับมรดกในฐานะเป็นผู้สืบสันดานเท่านั้นแต่ไม่ทำให้เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น จึงหามีสิทธิฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูในการที่มีผู้ทำให้บิดาถึงแก่ความตายไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 เป็นบิดาของนายสุ่ย แซ่โง้ว นางชูศรี เป็นภรรยาแต่มิได้จดทะเบียน เด็กชายวีระพงษ์ เด็กชายวีระศักดิ์เด็กหญิงรัชนี เด็กหญิงอารีย์ เด็กชายบุญสม ผู้เยาว์ เป็นบุตรนายสุ่ยซึ่งเกิดจากนางชูศรี จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์ไปในปกติธุระในทางที่จ้างของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้าง และขับด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ไปเฉี่ยวรถที่นายสุ่ยนั่งมาพลิกคว่ำ และนายสุ่ยถึงแก่ความตาย จึงขอให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูและค่าปลงศพแก่โจทก์ที่ 1 เงิน 26,000 บาท และแก่โจทก์ที่ 2 เงิน 239,800 บาท

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 และขับรถในทางการที่จ้างโดยประมาท เป็นเหตุให้นายสุ่ยถึงแก่ความตายพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 15,000 บาทแก่โจทก์ที่ 1 ให้ยกฟ้องโจทก์ที่ 2

โจทก์ที่ 2 และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ที่ 2 และจำเลยทั้งสองฎีกา

มีปัญหาข้อกฎหมายมาสู่ศาลฎีกาว่า โจทก์ที่ 2 คือ ผู้เยาว์ทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นบุตรผู้ตาย มีสิทธิเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือไม่เห็นว่า นายสุ่ยผู้ตายกับนางชูศรีผู้เป็นมารดาของโจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นผู้เยาว์ทั้งห้า เป็นสามีภรรยากันโดยมิได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแม้นายสุ่ยจะได้แจ้งทะเบียนการเกิดของเด็กทั้งห้าคนนี้ว่าเป็นบุตรและได้อุปการะเลี้ยงดูตลอดมาจนนายสุ่ยถึงแก่ความตายก็ตามโจทก์ที่ 2 ก็หาเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายสุ่ยไม่ เพราะเด็กที่เกิดนอกสมรสจะกลายเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาได้ ก็ต้องเป็นไปตามวิธีการแห่งบทบัญญัติมาตรา 1526 เท่านั้นการที่นายสุ่ยไปแจ้งทะเบียนการเกิดว่าโจทก์ที่ 2 เป็นบุตรของเขาก็ดี หรือการที่นายสุ่ยอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ที่ 2 ตลอดมาก็ดี หาทำให้โจทก์ที่ 2 กลายเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายสุ่ยไปได้ไม่ การกระทำของนายสุ่ยดังกล่าวคงทำให้โจทก์ที่ 2 มีฐานะเป็นเพียงบุตรที่บิดาได้รับรองแล้วตามมาตรา 1627 คือ มีสิทธิเพียงจะได้รับมรดกในฐานะเป็นผู้สืบสันดานตามมาตรา 1629(1) หาใช่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายดั่งโจทก์ที่ 2 ฎีกาขึ้นมาไม่

พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์ที่ 2 และจำเลยที่ 1 ที่ 2

Share