แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนว่าที่สวนยางรายนี้เป็นมรดกของนายนวล ซึ่งทายาทของนายนวลมีสิทธิที่จะได้รับการแบ่งทรัพย์รายนี้ตามกฎหมาย จำเลยในคดีหลังนี้ ซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนนั้นด้วย จะกลับมาโต้แย้งคัดค้านในคดีหลังนี้ว่าที่สวนยางรายเดียวกันนั้น เป็นทรัพย์ของตนฝืนคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าว ไม่ได้
ก่อนใช้ป.พ.พ.เมื่อชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันท์ผัวเมียโดยเปิดเผย ก็เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำต้องจดทะเบียนการสมรส บุตรที่เกิดแต่ชายหญิงเป็นทายาทโดยธรรมของชายหญิงนั้นตามป.พ.พ.
ย่อยาว
เรื่อง มรดก
โจทก์ฟ้องว่า นางเขียวโจทก์เป็นภรรยานายนวลเกิดบุตรสาวสองคนมีชีวิตอยู่คือ น.ส.คลาด กับ ด.ญ.คล้าย นายนวลตาย สวนยางของนายนวลตกเป็นมรดก โจทก์ครอบครองร่วมกับจำเลยนับแต่นายนวลตาย โจทก์ของแบ่งมรดกและเรียกค่าเสียหายที่จำเลยกรีดยาง
จำเลยทั้งสองให้การว่า สวนยางรายนี้นายนวลยกให้จำเลยแล้ว ได้ครอบครองมา ๑๐ ปีเศษ โจทก์เป็นภรรยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้จดทะเบียนสมรส คดีขาดอายุความมรดก โจทก์เรียกค่าเสียหายมากเกินไป
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้แบ่งมรดกรายนี้เป็น ๗ ส่วน ให้โจทก์ ๓ ส่วน ค่าเสียหาย ๒,๑๐๐ บาท ให้โจทก์ได้ ๓ ใน ๗ ส่วน
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้มรดกเป็น ๕ ส่วน ให้โจทก์ได้ ๓ ส่วน ให้จำเลย ๒ ส่วน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามพิพากษาศาลฎีกา (ในคดีแพ่งแดงที่ ๑๔๕/๒๔๙๓ ของศาลจังหวัดพัทลุง) ว่า สวนยางรายนี้เป็นมรดกของนายนวล ทายาทของนายนวลมีสิทธิที่จะได้รับการแบ่งทรัพย์รายนี้ด้วยตามกฎหมาย จำเลยในคดีนี้เป็นคู่ความในคดีนั้น จะกลับมาโดยแย้งคัดค้านว่าเป็นทรัพย์ของตน ฝืนคำพิพากษาของศาลฎีกาไม่ได้
ส่วนข้อที่ว่า โจทก์เป็นภริยาและบุตรของนายนวลโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ฟังได้ว่า โจทก์ที่ ๑ เป็นภรรยานายนวลก่อนใช้ ป.พ.พ. จึงต้องถือตามกฎหมายเก่า ไม่จำต้องจดทะเบียนการสมรส เมื่อกินอยู่ด้วยกันฉันท์ผัวเมียโดยเปิดเผย ก็เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ที่ ๒ และที่ ๓ ซึ่งเป็นบุตรโจทก์เกิดแต่นายนวล จึงเป็นทายาทโดยชอบธรรมของนายนวล
พิพากษายืน.