คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ที่ดินของโจทก์และจำเลยมีเขตที่ดินติดต่อ กันโดย ที่ดินโจทก์อยู่ทางทิศเหนือของที่ดินจำเลย โจทก์ใช้ ทางพิพาทในที่ดินจำเลยเข้าออกระหว่างบ้านโจทก์ถึง ซอย นานเกิน 10 ปี เป็นทางภารจำยอมแล้ว ต่อมาจำเลยปิดทางพิพาท เมื่อทางอำเภอไกล่เกลี่ยจำเลยยอมเปิดทางกว้าง 1.50 เมตร แต่ ที่ปากทาง พิพาทด้าน ติด กับซอย ยังคงมีประตูรั้วซึ่ง จำเลยปิดเวลากลางคืนเปิดเวลากลางวันดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิทำรั้วปิดกั้นให้แคบลงกว่าเดิม และปิดในเวลากลางคืน เพราะเป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินซึ่งโจทก์ปลูกบ้านอยู่อาศัยเนื้อที่ประมาณ 2 งาน อยู่หมู่ที่ 2 ตำบลวัดป่าอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เขตที่ดินด้านทิศใต้จดที่ดินจำเลย โจทก์และบุคคลอื่นที่มีที่ดินอยู่ใกล้เคียงกันได้ใช้ทางเดินล้อเกวียนและรถยนต์เข้าออกผ่านที่ดินของจำเลยมานานประมาณ 60 ปีจนได้สิทธิภารจำยอมโดยอายุความเป็นทางกว้างประมาณ 3 วายาวประมาณ 20 วา จากซอยต้นผูเข้าบ้านโจทก์ ปรากฏตามรูปแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง เมื่อเดือนตุลาคม 2528 จำเลยได้ใช้ไม้ปิดกั้นทางเดินดังกล่าว โจทก์ร้องเรียนต่อนายอำเภอหล่มสัก ทางอำเภอไกล่เกลี่ยแล้วจำเลยเปิดไม้กั้นทางให้กว้างเพียงไม่เกิน 3 ศอก และเมื่อถึงเวลากลางคืนก็ปิดกั้นอีก ทำให้โจทก์เข้าออกจากบ้านไม่ได้ดังเดิมโจทก์ร้องเรียนอีกแต่ทางอำเภอไม่อาจบังคับจำเลยได้ ขอให้บังคับจำเลยเปิดทางเดินให้มีความกว้าง 3 วา ตลอดเส้นทางจากซอยต้นผูถึงที่ดินโจทก์ ห้ามไม่ให้จำเลยและบริวารปิดกั้นทางเดินอีกต่อไป
จำเลยให้การว่า โจทก์ใช้เส้นทางอื่นออกสู่ทางสาธารณะได้ จำเลยไม่ได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทางเดินพิพาทให้มีความกว้าง3 เมตร 25 เซนติเมตร ตลอดเส้นทางจากซอยต้นผูถึงที่ดินโจทก์และห้ามมิให้จำเลยปิดกั้นทางเดินอันเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถใช้ทางพิพาทได้อีก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่าที่ดินของโจทก์และจำเลยมีเขตที่ดินติดต่อกันโดยที่ดินโจทก์อยู่ทางทิศเหนือของที่ดินจำเลย โจทก์ใช้ทางพิพาทในที่ดินจำเลยเข้าออกระหว่างบ้านโจทก์ถึงซอยต้นผูนานเกิน 10 ปีเป็นทางภารจำยอมแล้ว ต่อมาปี 2528 จำเลยปิดทางพิพาท เมื่อทางอำเภอหล่มสักไกล่เกลี่ยจำเลยยอมเปิดทางกว้าง 1.40 เมตรแต่ที่ปากทางพิพาทด้านติดกับซอยต้นผูยังคงมีประตูรั้วซึ่งจำเลยปิดเวลากลางคืนเปิดเวลากลางวัน…
ปัญหาประการที่สองที่ว่า จำเลยมีสิทธิทำรั้วปิดกั้นทางพิพาทในเวลากลางคืนหรือไม่นั้น เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอม ซึ่งโจทก์มีสิทธิใช้ได้แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิใช้ทางพิพาททั้งเวลากลางวันและกลางคืนตามสภาพทางเดิมที่เคยใช้มา จำเลยจึงไม่มีสิทธิทำรั้วปิดกั้นให้แคบลงกว่าเดิมและปิดในเวลากลางคืน เพราะเป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน.

Share