แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น 4 – 5 แผ่น ของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้
รุ่งเช้าจำเลยพบยางซ่อนอยู่ในป่าและดักซุ่มรอคอยอยู่ห่างกองยาง 10 วา นาน 3 – 4 ชั่วโมง ผู้ตายก็มาเอายางออกจากที่ซ่อนเดินไปได้ 3 – 4 วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย
ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิของตน ให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2502
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้ใช้ปืนยิงผู้ตาย โดยมีสาเหตุว่า ในตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น ๔ – ๕ แผ่นของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จึงได้ไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้ รุ่งเช้าจำเลยไปพบยางซ่อนอยู่ในป่าได้ไปซุ่มดักรอคอยอยู่ห่างกองยาง ๑๐ วา นาน ๓ – ๔ ชั่วโมง ผู้ตายก็ออกมาจากที่ซ่อนพอเดินไปได้ ๓ – ๔ วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายตายแล้วจำเลยก็เข้ามอบตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีผิดตาม มาตรา ๒๘๘, ๗๘ ให้จำคุก ๗ ปี ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตาม มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วย มาตรา ๖๘, ๖๙ และ ๗๘ ให้จำคุก ๒ ปี ๘ เดือน นอกจากแก้ยืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ , จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ จำเลยมีทางอื่นที่จะทำได้หลายประการ เพื่อไม่ให้ผู้ตายเอาทรัพย์ไป
พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น