แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โอนสิทธิเรียกร้องให้แก่กันโดยถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย++การโอนรายนี้ทำขึ้นเพื่อให้ผู้รับโอนมาฟ้องร้องคดีแทนเพราะผู้โอนขี้เกียจมา++ก็ดี ก็ไม่เป็นนิติกรรมที่ขัดขวางต่อความสงบเรียบ+++หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นการแสดง++++อย่างใด การโอน+++++ใช้ได้ตามกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยโดยกล่าวว่า ข. ได้โอนสิทธิเรียกร้องรายนี้ให้โจทก์แบะได้แจ้งการโอนให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด
ในวันพิจารณาโจทก์เบิกความเป็นพะยานว่า การโอนหนี้กันนี้ ช. ขอโอนให้โจทก์เองคือโอนให้ฟ้องร้อง เมื่อได้เงินคืน ข.พูดว่าโอนให้โจทก์เพราะขี้เกียจมาศาล
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานต่อไปและวินิจฉัย ว่าสิทธิในการฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์เพราะการโอนหนี้ระหว่างโจทก์กับ ข.นั้นทำกันพอเป็นพิธีได้โอนโดยได้ชื่อว่าเป็นเจตนาลวงเป็นโมฆะตาม ม. ๑๑๘ และการโอนนี้ไม่เป็นอันสมบูรณ์ในฐานเป็นนิติกรรมอย่างอืน ตามประมวลแพ่ง ม. ๑๓๖ ด้วย พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ ว่าการโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้สินรายนี้มื่อได้บอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้แล้วผู้รับโอนย่อยจะใช้สิทธต่าง ๆ เกรายวกับหนี้สินนั้นรวมทั้งการฟ้องร้องลูกหนี้ด้วย การโอนได้ทำสำเร็จเด็ดขาดแล้วคำพูดของผู้โอนไม่กระทำหม้เกิดความผูกพันธ์ต่อผู้รับโอนอย่างใด ส่วนคำพูดที่ว่าโอนให้เพราะขี้เกียจมาศาลก็ไม่มีบทกฎหมายใดห้าม การโอนรายนี้ไม่ได้ขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนอย่างไรบุคคลมีสิทธิทำได้ ส่วนจะโอนให้กันเพราะเหตุไรถ้าไม่ผิดกฎหมายแล้วก็ไม่มีทางจะว่ากล่าวเป็นโมฆะจะว่าเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมศาลก็ไม่ปรากฏดังนี้น และก็ไม่ใช่เรื่องยุแหย่ให้เขาเป็นความกันด้วย พิพากษาว่าการโอนรานนี้ไม่เป็นโมฆะตามประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๑๓ ๑๑๘ แต่อย่างใด ให้ย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณา พิพากษาต่อไปตามกระบวนความ