แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องมีข้อหาว่าจำเลยประกอบการค้าข้าว ทำการสีข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับว่าจำเลยสีข้าวทั้ง 5 ครั้งโดยไม่มีใบอนุญาต จำเลยจึงต้องมีความผิดตามมาตรา 18 ข้อที่จำเลยว่าจำเลยหลงลืมในการขอต่ออายุใบอนุญาตนั้นจะจริงก็ไม่ทำให้พ้นความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำการสีข้าวโดยไม่ได้ใบรับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และเป็นการฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษจำเลยและริบข้าวของกลาง
จำเลยให้การว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ทำการค้าข้าวประเภททำการสี ใบอนุญาตเดิมสิ้นอายุเมื่อวันสิ้นปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ครั้นต่อมาตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๒ ถึง ๗ เมษายน ๒๔๙๒ จำเลยสีข้าวโดยยังไม่ได้ต่อใบอนุญาตสีข้าว ๕ ครั้ง ได้ห้าหมื่นห้าพันกิโลกรัมจริงตามฟ้อง แต่อย่างไรก็ดีทางราชการได้ต่อใบอนุญาตให้จำเลยแล้ว โดยออกใบอนุญาตให้เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๔๙๒
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. การค้าข้า ๒๔๙๒ มาตรา ๑๘ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ ๒) ๒๔๘๙ มาตรา ๑๑ ปรับจำเลย ๓๐๐ บาท ลดโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง คงปรับ ๑๕๐ บาท ริบข้าวของกลาง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องมีข้อหาว่า จำเลยประกอบการค้าข้าวทำการสีข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงานจำเลยรับว่าจำเลยสีข้าวทั้ง ๕ ครั้งไม่มีใบอนุญาต จึงต้องมีความผิดตามมาตรา ๑๘ ข้อที่จำเลยหลงลืมในการต่ออายุใบอนุญาตนั้น หากจะจริงก็ไม่ทำให้พ้นผิด
จึงพิพากษายืน