คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่19เมษายน2526โจทก์นำเช็คพิพาทเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่20เมษายน2526โดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายเมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความว่าในวันที่19เมษายน2526ซึ่งเป็นวันที่จำเลยออกเช็คเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายดังนี้จะฟังว่าการที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่20เมษายน2526นั้นในวันที่19เมษายน2526เงินในบัญชีของจำเลยก็มีไม่พอจ่ายด้วยหาได้ไม่จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้.

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าเช็คพิพาท ลงวันที่19 เมษายน 2526 ต่อมาเมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์ได้นำเช็คดังกล่าวเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2526 โดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายคดีมีปัญหาวินิจฉัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดดังโจทก์ฟ้องหรือไม่เห็นว่า คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าในวันที่ 19 เมษายน 2526 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยออกเช็คนั้น เงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายตามเช็คพิพาทแต่โจทก์ก็มิได้นำพยานมาสืบให้ฟังได้ในข้อนี้ การที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2526 โดยอ้างว่าเงินในบัญชีของจำเลยไม่พอจ่ายนั้น จะฟังว่าในวันที่ 19 เมษายน 2526เงินในบัญชีของจำเลยก็มีไม่พอจ่ายด้วยหาได้ไม่ ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าตามประเพณีของธนาคารจะปิดรับเช็คที่จะนำไปเรียกเก็บเงินในวันนั้นเพียงเวลาไม่เกิน 10 นาฬิกา ถ้าหลังจากนั้นแล้วธนาคารจะนำไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารตามเช็คในวันรุ่งขึ้น เมื่อปรากฏว่าวันที่ 20 เมษายน 2526 เงินในบัญชีของจำเลยไม่พอจ่าย ก็แสดงว่าเงินในบัญชีที่ยกมาจากวันที่ 19 เมษายน 2526 ก็มีไม่พอจ่ายเช่นเดียวกันนั้น ข้อเท็จจริงดังกล่าวโจทก์ก็มิได้มีพยานหลักฐานมาสืบให้ฟังได้เช่นนั้น จึงไม่อาจรับฟังข้อเท็จจริงดังฎีกาของโจทก์ได้ เมื่อพยานหลักฐานเท่าที่โจทก์นำสืบมายังฟังไม่ได้ชัดว่า ในวันที่19 เมษายน 2526 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยออกเช็คเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายตามจำนวนที่ปรากฏในเช็คพิพาทดังนี้ คดีก็ไม่อาจฟังลงโทษจำเลยได้
พิพากษายืน.

Share