คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้กู้ย่อมนำสืบได้ว่า ผู้ให้กู้เอาจำนวนดอกเบี้ยเกินอัตรามารวมเป็นต้นเงินในสัญญากู้ล่วงหน้าเป็นการผิดกฎหมายได้
ดอกเบี้ยตามสัญญากู้เป็นโมฆะเพราะเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยตั้งแต่วันทำสัญญากู้ และไม่ปรากฏว่าก่อนฟ้องได้มีการผิดนัด ลูกหนี้จึงต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย 8,584 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 15 ในต้นเงิน 5,920 บาท นับแต่วันฟ้อง

จำเลยให้การว่า ได้ทำสัญญากู้จริงแต่รับเงินเพียง 4,000 บาทในสัญญากู้ลงต้นเงินว่า 5,920 บาท โจทก์คิดดอกเบี้ยล่วงหน้าร้อยละ 4 ต่อเดือน เป็นเวลา 1 ปี เป็นเงิน 1,920 บาท รวมไว้ด้วยเป็นการผิดกฎหมาย จำเลยได้ส่งข้าวเปลือกชำระต้นเงินและดอกเบี้ยแล้ว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงิน 5,920 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2496

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ดอกเบี้ย 1,920 บาท ที่โจทก์คิดไว้ล่วงหน้าเป็นหนี้ที่ไม่สมบูรณ์บังคับไม่ได้ พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระต้นเงิน 4,000 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2496

โจทก์ฎีกาเถียงข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาว่า สัญญาเป็นโมฆะทั้งฉบับ

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยนำสืบฟังได้ว่า โจทก์เอาจำนวนเงินดอกเบี้ยเกินอัตรามารวมไว้เป็นต้นเงินในสัญญากู้ไว้ล่วงหน้าเป็นการผิดกฎหมายได้ แต่แยกได้จากเงินกู้ 4,000 บาทที่จำเลยกู้ต้นเงิน 4,000 บาท จึงไม่เป็นโมฆะไปด้วยเมื่อดอกเบี้ยตามสัญญากู้เป็นโมฆะเสียแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยตั้งแต่วันทำสัญญากู้ ทั้งไม่ปรากฏว่าก่อนฟ้องมีการผิดนัดชำระดอกเบี้ยกันอย่างไรอย่างไรก็ดีโดยเหตุที่จำเลยยังไม่ใช่ต้นเงิน จนกระทั่งโจทก์ต้องนำคดีมาฟ้อง จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป

พิพากษาแก้ เฉพาะดอกเบี้ยให้จำเลยชำระตั้งแต่วันฟ้องจนชำระเสร็จ

Share