แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อมีผู้ถูกบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้ระหว่างคน+แต่ 3 คนขึ้นไป แต่ปรากฎว่าจำเลยเป็นผู้ทำร้ายดังนี้ ก็ลงโทษจำเลยตาม ม.256 ได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฝ่ายหนึ่ง+ตายกับพวกอีก 2 คนฝ่ายหนึ่งวิวาททำร้ายกันเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงตาย อ้าง ม.251+ด้วย และในฟ้องก็กล่าว+จำเลยเป็นผู้ทำร้ายเมื่อปรากฎว่าจำเลยเป็นผู้ทำร้ายผู้ตายถึงตายดังนี้ศาลก็ลงโทษจำเลยตาม ม.251 ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
ย่อยาว
คดี ๒ สำนวนนี้เกี่ยวเนื่องกันสำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย ม.บาดเจ็บสาหัสสำนวนหลังหาว่านายผวนฝ่ายหนึ่ง นายเรือน นายปื่นและ พ.อีกฝ่ายหนึ่งวิวาทกันมีบาดเจ็บและ พ.ถึงแก่ความตาย
ศาลชั้นต้นฟังว่านายผวนจำเลยแทง พ.ถึงตายและนายปิ่นจำเลยทำร้ายร่างกาย ม.บาดเจ็บสาหัส ลงโทษนายผวนจำเลย ๕ ปีตาม ม.๒๕๑ นายปิ่น ๒ ปีตาม ม.๒๕๖
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามในข้อนี้
นายผวนฎีกาว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกัน พ.ตายในที่วิวาทโจทก์เพียงแต่อ้าง ม.๒๕๑ มาลอย ๆ จะลงโทษตามมาตรานี้มิได้จะลงได้ก็แต่ ม.๒๕๓ นายปิ่นฎีกาว่าศาลชี้ขาดแต่เพียงว่าเป็นการวิววาทมีคนบาดเจ็บสาหัส ฉะนั้นจะลงโทษจำเลยตาม ม.๒๕๖ มิได้ ลงได้แต่ ม.๒๕๘
ศาลฎีกาตัดสินว่าฟ้องของโจทก์บ่งไว้ชัดเจนพอจะให้เข้าใจว่านายผวนทำร้าย พ.แล้ว พ.ถึงตาย ฉะนั้นที่ศาลล่างวาง ม.๒๕๑ ตามคำขอท้ายฟ้องหาเป็นการเกินคำขอไม่ ส่วนนายปิ่นจำเลยศาลฟังว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย ม.บาดเจ็บสาหัสต้องโทษตาม ม.๒๕๖ ได้ เพราะ ม.๒๕๘ เป็นเรื่องมีผู้บาดเจ็บในที่วิวาทระหว่างบุคคลแต่ ๓ คนขึ้นไปแล้วไม่ปรากฎว่า+ทำร้าย จึงพิพากษายืนตาม ให้ยกฎีกาจำเลยทั้ง ๒