คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บริษัท ซ. ผู้ขนส่งสินค้าที่โจทก์รับประกันภัยไว้เป็นผู้ว่าจ้างบริษัท อ. โดยตรงให้เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลจำเลยที่ 1 มิได้เป็นผู้ขนสินค้าหรือร่วมขนสินค้าจากเรือเดินทะเลลงเรือเล็ก ลำพังแต่การดำเนินการทางเอกสาร หรือปฏิบัติพิธีการเกี่ยวกับการนำเรือเข้าเทียบท่าในราชอาณาจักรหรือแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าต่อกรมศุลกากร หรือแจ้งต่อเจ้าของสินค้ารวมถึงกำหนดวันขนถ่ายสินค้า ตลอดจนวิธีการที่แจ้งให้เจ้าของสินค้านำใบตราส่งไปแลกกับใบปล่อยสินค้าจากนายเรือตามทางปฏิบัติของการขนส่งทางทะเลนั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขนส่งร่วมกับบริษัทซ. และเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 618 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิจากเจ้าของสินค้าผู้เอาประกันภัยเรียกเอาค่าเสียหายในกรณีที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายในระหว่างการขนส่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับประกันภัยสินค้าเยื่อกระดาษจากบริษัทไทยเรยอน จำกัด ในวงเงินไม่เกิน 12,413,761.90 บาทบริษัทซังโกสตีมชิป จำกัด เป็นผู้รับขนส่งจากประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย โดยเรือเดินทะเลชื่อบาฮาม่าสตาร์ บริษัทซังโกสตีมชิป จำกัด ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ให้เข้าร่วมขนส่งทอดสุดท้ายในประเทศไทย เรือบาฮาม่าสตาร์มาถึงประเทศไทยในเดือนเมษายน 2526 และทำการขนถ่ายสินค้าลงเรือฉลอมที่ท่าเรือของบริษัทแหลมทองสหการ จำกัด เพื่อส่งต่อไปยังคลังสินค้าของบริษัทไทยเรยอน จำกัด ในการนี้บริษัทไทยเรยอน จำกัด ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 3 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการให้เป็นผู้ขนส่งอีกทอดหนึ่ง จำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้จัดเรือฉลอมไปรับขนสินค้าในวันที่ 8 เมษายน 2526 โดยจำเลยที่ 4 ที่ 5 ได้นำเรือเข้าทำการขนส่งร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์กันในระหว่างการขนถ่ายสินค้าจำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันก่อให้เกิดความเสียหายแก่สินค้าเยื่อกระดาษเปียกน้ำรวม 118 มัด หรือ944 ห่อ ในจำนวนนี้มีเยื่อกระดาษที่เปียกน้ำแล้วยังสามารถใช้ผลิตสินค้าได้ 68 ห่อ ส่วนอีก 876 ห่อ เสียหายทั้งหมด รวมเป็นเงินจำนวน 2,250,461.86 เยื่อกระดาษที่ใช้ผลิตสินค้าไม่ได้นั้นขายซากไปได้เงินจำนวน 344,914 บาท ค่าเสียหายที่แท้จริงจึงเป็นเงินจำนวน 1,905,547.86 บาท โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวไปจึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิที่จะเรียกร้องเอาจากจำเลยทั้งห้า จึงขอให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันใช้เงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 มิได้เข้าร่วมทำการขนส่งกับบริษัทซังโกสตีมชิป จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนทำพิธีการเกี่ยวกับการเข้าออกของเรือบาฮาม่าสตาร์เฉพาะเที่ยวเรือที่พิพาทเท่านั้น ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าหรือการขนถ่ายสินค้าโจทก์จ่ายค่าเสียหายให้บริษัทไทยเรยอน จำกัด โดยผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จึงไม่มีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ 1ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 4 ให้การว่า จำเลยที่ 4 มิใช่เจ้าของเรือฉลอมหมายเลขทะเบียน กท.1371 และมิได้มอบหมายให้ผู้ใดควบคุมเรือหรือนำเรือดังกล่าวไปรับจ้างขนถ่ายสินค้ารายพิพาท ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 5 ให้การว่า จำเลยที่ 5 มิได้ประกอบกิจการรับขนส่งสินค้าทางน้ำ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้โจทก์จำนวน436,950.31 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมกันชำระเงินให้โจทก์จำนวน 1,381,279.65 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยยกฟ้องคดีสำหรับจำเลยที่ 4 ที่ 5 โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้รับประกันภัยสินค้าเยื่อกระดาษจากบริษัทไทยเรยอนจำกัด ซึ่งทำการขนส่งจากเมืองเคทซิกัน มลรัฐอลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย โดยบริษัทซังโกสตีมชิป จำกัดเป็นผู้รับขนส่งทางทะเลโดยใช้เรือบาฮาม่าสตาร์บรรทุก มีจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนเรือ เมื่อเรือบาฮาม่าสตาร์ทำการบรรทุกสินค้าดังกล่าวมาถึงประเทศไทยได้ทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือบาฮาม่าสตาร์ลงเรือฉลอม แต่เกิดเหตุระหว่างการขนถ่ายสินค้าทำให้เรือฉลอมหมายเลขทะเบียน กท. 1371 และหมายเลขทะเบียน นว. 0341 รวม 2 ลำที่ร่วมบรรทุกสินค้าเยื่อกระดาษพลิกคว่ำจมลงและสินค้าเยื่อกระดาษของบริษัทไทยเรยอน จำกัด ที่บรรทุกอยู่ในเรือทั้งสองลำเสียหายโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไทยเรยอนจำกัด ผู้เอาประกันภัยไปแล้วจึงรับช่วงสิทธิเรียกเอาค่าเสียหายเป็นคดีนี้
มีปัญหาที่จะต้องพิจารณาเป็นลำดับแรกตามฎีกาของจำเลยที่ 1ว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขนส่งร่วมกับบริษัทซังโกสตีมชิป จำกัดและเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดหรือไม่ ซึ่งในปัญหานี้ โจทก์แก้ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 ได้กระทำการตามหน้าที่ของผู้ขนส่ง ถือได้ว่าเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดแล้ว ข้อโต้แย้งในประการนี้ พิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนเรือของบริษัทซังโกสตีมชิปจำกัด ซึ่งเป็นผู้ขนส่งสินค้าเยื่อกระดาษรายพิพาทโดยเรือบาฮาม่าสตาร์ เนื่องจากบริษัทซังโกสตีมชิป จำกัด เป็นนิติบุคคลที่ประกอบกิจการขนส่งทางทะเลในต่างประเทศ และเรือบาฮาม่าสตาร์เดินเรือเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งคราว บริษัทซังโกสตีมชิป จำกัดจึงแต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนมีรายละเอียดตามหนังสือแต่งตั้งตัวแทนเอกสารหมาย ล.1 การเป็นตัวแทนดังกล่าวระบุว่าให้จำเลยที่ 1 กระทำการเป็นตัวแทนในการทำพิธีการเรือเข้าออกของเรือบาฮาม่าสตาร์ และได้กล่าวถึงค่าใช้จ่ายของเรือรวมไปถึงค่าสตีวีโดร์สำหรับสินค้าเยื่อกระดาษด้วย โดยเฉพาะค่าสตีวีโดร์(STEEDORAGE) นี้ เมื่อพิเคราะห์จากคำเบิกความของนายนพดล ติยะพงศ์ประพันธ์ พยานจำเลยที่ 1 แล้ว ก็คือค่าขนถ่ายสินค้าที่ขนถ่ายสินค้าขึ้นหรือลงจากเรือเดินทะเลไปที่ท่าเรือ หรือขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลลงมาที่เรือลำเลียงก็ได้ ฉะนั้น การเป็นตัวแทนเรือของจำเลยที่ 1 จึงมีข้อพิจารณาที่สำคัญว่า จำเลยที่ 1ได้ทำการเป็นตัวแทนเรือโดยขนถ่ายสินค้าลงจากเรือบาฮาม่าสตาร์ตามความเป็นจริง หรือเป็นตัวแทนเรือเกี่ยวกับพิธีการเข้าออกของเรือบาฮาม่าสตาร์หรือที่เกี่ยวข้องทางด้านเอกสารเท่านั้นโดยมิได้ทำการขนถ่ายสินค้าเลย หากมีข้อเท็จจริงเป็นประการแรกจำเลยที่ 1 ย่อมมีฐานะเป็นทั้งตัวแทนเรือและเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 ซึ่งจะต้องรับผิดร่วมกันกับผู้ขนส่งเกี่ยวกับความเสียหายบุบสลายของสินค้าที่รับขน แต่ในทางกลับกัน ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ร่วมขนถ่ายสินค้าก็ไม่ต้องรับผิดในฐานะเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด ปัญหานี้โจทก์นำสืบว่า นอกจากจำเลยที่ 1 จะมีหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการนำเรือบาฮาม่าสตาร์เข้าท่า แจ้งกรมศุลกากร และแจ้งกำหนดวันเรือเข้าและวันขนถ่ายสินค้าแล้ว จำเลยที่ 1 ยังต้องจัดหากรรมกรไปขนถ่ายสินค้าจากเรือบาฮาม่าสตาร์ด้วย การขนถ่ายสินค้าลงจากเรือใหญ่ที่เรียกกันในทางปฏิบัติว่า สตีวีโดร์ นั้นนายสุรพล ชีพอารนัย เจ้าหน้าที่ของโจทก์เบิกความว่า จำเลยที่ 1ต้องจัดการขนถ่ายสินค้าขึ้นจากเรือ ส่วนนายมาโนช อุปะเดียพยานโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทไทยเรยอน จำกัด ก็เบิกความว่าจำเลยที่ 1 มีหน้าที่แจ้งการมาถึงของสินค้าให้เจ้าของสินค้าทราบและทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ในเขตของท่าเรือ หรือลงเรือฉลอมและแจ้งให้เจ้าของสินค้านำใบตราส่งไปแลกใบสั่งปล่อยสินค้าข้อนำสืบดังกล่าวของโจทก์เมื่อพิจารณาประกอบกับหนังสือแต่งตั้งตัวแทน เอกสารหมาย ล.1 ที่มีข้อความว่าจะส่งเงินค่าสตีวีโดร์สำหรับเยื่อกระดาษมาให้ก่อนที่เรือจะมาถึงแล้ว พยานหลักฐานของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นการอ้างว่า ผู้ขนส่งได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1ดำเนินการขนถ่ายสินค้าลงจากเรือบาฮาม่าสตาร์ และจำเลยที่ 1อยู่ในฐานะเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด แต่อย่างไรก็ตามในข้อเท็จจริงนี้จำเลยที่ 1 ฎีกาและโต้เถียงว่า จำเลยที่ 1 มิได้เข้าร่วมในการขนถ่ายสินค้าลงจากเรือบาฮาม่าสตาร์โดยจำเลยที่ 1 นำสืบนายนพดลติยะพงศ์ประพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเอเซีย มารีไทม์ เอเยนซี จำกัด ว่า บริษัทของพยานเป็นผู้รับจ้างขนถ่ายสินค้าเยื่อกระดาษจากบริษัทซังโกสตีมชิป จำกัด การขนถ่ายสินค้าที่พิพาทคดีนี้อยู่ในความควบคุมดูแลและตรวจสอบของบริษัทเอเซีย มารีไทม์ เอเยนซี จำกัด โดยตลอด นายประจวบ ช่างโทรเลขผู้ทำหน้าที่โฟร์แมนหรือผู้ดูแลรับผิดชอบการขนถ่ายสินค้าลงจากเรือบาฮาม่าสตาร์ของบริษัทรับจ้างทำสตีวีโดร์ ก็เบิกความยืนยันว่าไม่มีคนงานของจำเลยที่ 1 เข้ามาเกี่ยวข้องในการขนถ่ายสินค้านอกจากนี้ เมื่อได้ตรวจดูหนังสือจ้างทำสตีวีโดร์การขนถ่ายเยื่อกระดาษเอกสารหมาย จ.50 ก็ปรากฏว่า บริษัทซังโกสตีมชิป จำกัดผู้ขนส่งสินค้าเยื่อกระดาษเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทเอเซีย มารีไทม์ เอเยนซี จำกัด โดยตรง ให้เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าเยื่อกระดาษจากเรือบาฮาม่าสตาร์ ในราคาอัตราค่าจ้าง 1.75 เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อเมตริกตัน ดังนี้ เมื่อพิเคราะห์พยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายแล้ว พยานหลักฐานของจำเลยที่ 1 เชื่อถือได้มากกว่าคดีรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 มิได้เป็นผู้ขนสินค้าหรือร่วมขนสินค้าเยื่อกระดาษจากเรือบาฮาม่าสตาร์ลงเรือเล็ก ลำพังแต่การดำเนินการทางเอกสาร หรือปฏิบัติพิธีการเกี่ยวกับการนำเรือเข้าเทียบท่าในราชอาณาจักร หรือแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าต่อกรมศุลกากร หรือแจ้งต่อเจ้าของสินค้า รวมถึงกำหนดวันขนถ่ายสินค้า ตลอดจนวิธีการที่แจ้งให้เจ้าของสินค้านำใบตราส่งไปแลกกับใบปล่อยสินค้าจากนายเรือตามทางปฏิบัติของการขนส่งทะเลนั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1เป็นผู้ขนส่งร่วมกับบริษัทซังโกสตีมชิป จำกัด และผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 648/2532 ระหว่าง บริษัทนิวแฮมพ์เชอร์อินชัวรันส์ จำกัด โจทก์ บริษัทแองโกลไทยบริการจำกัด จำเลย คำพิพากษาฎีกาที่ 713/2532 ระหว่าง บริษัทนิวซีแลนด์อินชัวรันซ์ จำกัด โจทก์ บริษัทดีทแฮล์มอินเตอร์เนชั่นแนล ทรานสปอร์ตเซอร์วิสเซส จำกัด จำเลยจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิจากเจ้าของสินค้าผู้เอาประกันภัยเรียกเอาค่าเสียหายในกรณีที่สินค้าเยื่อกระดาษสูญหายหรือบุบสลายในระหว่างการขนส่งฎีกาในข้อนี้ของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share