แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกคนร้ายที่ขึ้นบ้านปล้นทรัพย์พายเรือไปด้วยกัน 2 ลำเมื่อถึงบ้านเจ้าทรัพย์ก็จอดเรือไว้หน้าบ้าน จำเลยกับพวกอีก 2 คนอยู่ในเรือ พวกของจำเลยอีก 3 คนในเรืออีกลำหนึ่งขึ้นบนบ้าน ปล้นได้ทรัพย์แล้วกลับมาลงเรือ จำเลยกับพวกทั้งหมดพายเรือ กลับไปด้วยกัน การที่จำเลยจอดเรืออยู่ที่หน้าบ้านเจ้าทรัพย์พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยอยู่ในลักษณะคุมดูต้นทางและ สามารถช่วยเหลือให้การปล้นทรัพย์สำเร็จลุล่วงไป เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำและร่วมกระทำผิดด้วยกัน จำเลยจึงเป็นตัวการในการปล้นทรัพย์ด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันมีและใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายไปหลายรายการ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 86
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยกับพวกรวม 6 คนพายเรือหมูไปด้วยกัน 2 ลำลำละ 3 คน มุ่งไปจอดอยู่ที่ข้างกอไผ่หน้าบ้านนายโปรยเจ้าทรัพย์ จำเลยกับพวกอีก 2 คนนั่งอยู่ในเรือลำหนึ่งส่วนนายณรงค์หรือแอ๊ว นายอ้น และนายเฉลิม ซึ่งอยู่ในเรืออีกลำหนึ่งได้ขึ้นไปปล้นทรัพย์บนบ้านนายโปรย และได้ใช้ปืนตบตีนางละม่อมกับนางสาวสมบุญและมัดไว้ เมื่อได้ทรัพย์แล้วพามาลงเรือแล้วพายเรือกลับไปด้วยกันทั้งสองลำ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยกับพวกคนร้ายที่ขึ้นบ้านปล้นทรัพย์พายเรือไปด้วยกันและมุ่งหน้าไปยังบ้านเจ้าทรัพย์ แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยกับพวกที่ร่วมกันปล้นทรัพย์ เมื่อถึงบ้านเจ้าทรัพย์ก็จอดเรือกันไว้ที่หน้าบ้าน จำเลยกับพวกอีก 2 คนอยู่ในเรือ นายณรงค์หรือแอ๊ว กับพวกอีก 2 คนในเรืออีกลำหนึ่งขึ้นบนบ้านปล้นได้ทรัพย์แล้วกลับมาลงเรือแล้วจำเลยกับพวกทั้งหมดพายเรือกลับไปด้วยกัน การที่จำเลยจอดเรืออยู่ที่หน้าบ้านเจ้าทรัพย์พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยอยู่ในลักษณะคุมดูต้นทางและสามารถช่วยเหลือให้การปล้นทรัพย์สำเร็จลุล่วงไป เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำโดยจำเลยกระทำส่วนหนึ่งเพื่อให้การปล้นทรัพย์นั้นบรรลุผลสำเร็จ และเมื่อพวกของจำเลยปล้นทรัพย์ได้แล้วยังพายเรือกลับไปด้วยกันอีก จึงนับว่าจำเลยร่วมกระทำผิดด้วยกัน เป็นตัวการในการปล้นทรัพย์ด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยและบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น