แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช็คเป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน จึงเป็นหนังสือซึ่งเป็นสำคัญแก่การตั้งหนี้สินหรือเป็นหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้ เลิกล้าง หรือ โอนหนี้สินเพราะเช็คนั้น ในเบื้องต้นย่อมเป็นหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินแก่ผู้ทรง และผู้สั่งจ่ายเป็นอันสัญญาว่า ถ้าธนาคารไม่ยอมจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง และในเบื้องปลาย เมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามคำสั่งของผู้ออกเช็คแล้ว ก็ย่อมเป็นหนังสือหลักฐานแสดงหนี้สินผูกพันระหว่างผู้ออกเช็คและธนาคารซึ่งผู้ออกเช็คต้องยอมให้ธนาคารหักเงินที่สั่งจ่ายนั้นจากบัญชีเงินฝากของตน หรือถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คเกินบัญชีเงินฝากของผู้ออกเช็คไป ธนาคารก็ย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ออกเช็คได้เช็คจึงเป็นหนังสือสำคัญตามความหมายของกฎหมายลักษณะอาญาโดยแท้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลอมลายมือชื่อภาษาอังกฤษของจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ ลงบนเช็คสั่งจ่ายเงินจากธนาคารมิทซุย จำกัด แล้วจำเลยนำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคารมิทซุย จำกัด ทำให้ธนาคารมิทซุยจำกัด และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 225, 227, 224, 304, 71, 63
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีผิดฐานใช้เช็คปลอมและฐานฉ้อโกงตามมาตรา 225 ข้อ 4 มาตรา 227 มาตรา 304 ให้ลงโทษฐานใช้หนังสือปลอมซึ่งเป็นบทหนัก และให้รวมกระทงลงโทษจำคุก 3 ปีและให้ใช้เงินธนาคารมิทซุย จำกัด
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่า เช็คเป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน จึงเป็นหนังสือซึ่งเป็นสำคัญแก่การตั้งหนี้สินหรือเป็นหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้ เลิกล้างหรือโอนหนี้สิน เพราะเช็คนั้นในเบื้องต้นย่อมเป็นหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินแก่ผู้ทรง และผู้สั่งจ่ายเป็นอันสัญญาว่า ถ้าธนาคารไม่ยอมจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง และในเบื้องปลายเมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามคำสั่งของผู้ออกเช็คแล้ว ก็ย่อมเป็นหนังสือหลักฐานแสดงหนี้สินผูกพันระหว่างผู้ออกเช็คและธนาคาร ซึ่งผู้ออกเช็คต้องยอมให้ธนาคารหักเงินที่สั่งจ่ายนั้นจากบัญชีเงินฝากของตนหรือถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คเกินบัญชีเงินฝากของผู้อาวัลเช็คไปธนาคารก็ย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ออกเช็คได้ เช็คจึงเป็นหนังสือสำคัญตามความหมายของกฎหมายลักษณะอาญาโดยแท้
พิพากษายืน