แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อความในสัญญาจ้างว่าความตอนหนึ่งมีความชัดเจนว่า “ค่าจ้างทั้งสิ้นเป็นเงิน 9,000 บาท จ่ายเป็น 3 งวด ๆ ที่ 1 จ่าย 3,000 บาท หลังวันทำสัญญา 7 วัน งวดที่ 2 จ่ายในระหว่างคดี 3,000 บาท งวดที่ 3 อีก 3,000 บาท เมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดเป็นอันหมดเงินค่าจ้าง ” ข้อความแห่งสัญญาดังกล่าวเป็นการจ้างเหมาทั้งหมด เมื่อโจทก์ว่าความให้แก่จำเลยจนคดีเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว แม้จะถึงที่สุดโดยวิธีใดที่ศาลใดก็ตามจำเลยก็ต้องชำระค่าจ้างให้แก่โจทก์เต็มตามจำนวนที่กล่าวไว้ในสัญญา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง ๕ จ้างโจทก์ว่าความเป็นเงิน ๙,๐๐๐ บาท โดยจ่ายเป็น ๓ งวด จำเลยผิดนัดไม่จ่ายให้ตามสัญญา ขอให้บังคับพร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ๑/๒ ต่อไปี
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้จ้างโจทก์ จ้างนายบัญ ตกลงจะจ่ายให้ ๓ ระยะ คือ เมื่อคดีเสร็จสิ้นชั้นศาลจังหวัด ๒ เมื่อคดีถึงศาลอุทธรณ์ ๓.เมื่อคดีถึงศาลฎีกา สำเนาฟ้องจำเลยลงชื่อโดยเข้าใจสาระสำคัญผิดเป็นโมฆียะ ซึ่งจำเลยขอถือโอกาศบอกล้าง ฯลฯ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเจตนาของคู่สัญญาน่าจะหมายความว่าคดีต้องเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดจริง ๆ คงไม่หมายความว่าคดีถึงที่สุดโดยศาลจำหน่ายคดี พิพากษาให้จำเลยชำระค่าจ้างให้โจทก์ ๓,๐๐๐ บาท ฯลฯ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสัญญาจ้างหมาย จ.๓ เป็นสัญญาจ้างทำของ เมื่อคดีของจำเลยเสร็จเด็ดขาดและคนของโจทก์ได้ทำงานให้จำเลยต้องจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ ฯลฯ พิพากษาแก้ให้จำเลยร่วมกันชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เป็นเงิน ๙,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ๑/๒ ต่อปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาจ้างว่าความตามเอกสารหมาย จ.๓ นั้น มีความชัดเจนว่า “ค่าจ้างทั้งสิ้นเป็นเงิน ๙,๐๐๐ บาท จ่ายเป็น ๓ งวด ๆ ที่ ๑ จ่าย ๓,๐๐๐ บาท หลังวันทำสัญญา ๗ วัน งวดที่ ๒ จ่ายในระหว่างคดี ๓,๐๐๐ บาท งวดที่ ๓ อีก ๓,๐๐๐ บาท เมื่อคดีเสร็จเด็ดขาด เป็นอันหมดเงินค่าจ้าง ฯลฯ” เห็นว่าตามข้อความแห่งสัญญานี้ เป็นการจ้างเหมาทั้งหมด เมื่อโจทก์ได้ว่าความให้แก่จำเลยจนคดีเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว แม้จะถึงที่สุดโดยวิธีใดที่ศาลใดก็ตาม จำเลยก็ต้องชำระค่าจ้างให้แก่โจทก์เต็มตามจำนวนที่กล่าวไว้ในสัญญา
เมื่อโจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ยอมชำระเต็มจำนวนก็แปลว่าจำเลยผิดนัด ต้องเสียดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว พิพากษายืน