แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
สิทธิตาม นิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่สามีโจทก์มีสิทธิที่จะใช้ ทางผ่านที่ดินจำเลยตาม สัญญาที่ทำไว้กับจำเลยและจำเลยได้ รับค่าตอบแทนไปแล้วนั้น แม้จะมิได้จดทะเบียนการได้ มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่เป็นทรัพยสิทธิที่บริบูรณ์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1299 แต่ ก็เป็นบุคคลสิทธิใช้ บังคับกันได้ ระหว่างคู่สัญญาและมิใช่สิทธิที่ตาม กฎหมายหรือว่าโดย สภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของสามีโจทก์โดย แท้ เมื่อสามีโจทก์ตาย ไป สิทธิดังกล่าวย่อมตกทอดแก่โจทก์ซึ่ง เป็นทายาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 15991600.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภรรยาของนายอำนวย แซ่หลิม โดยจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2521 นายอำนวยกับจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาให้ทำถนนโดยจำเลยยอมให้นายอำนวยทำถนนผ่านที่ดินจำเลยกว้าง 3 เมตร ยาว 25 เมตร คิดค่าตอบแทน 1,000 บาทโดยได้รับเงินไปแล้ว นายอำนวยใช้ที่ดินจำเลยเป็นเส้นทางเข้าออกตลอดมา ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2529 นายอำนวยตาย โจทก์เป็นทายาทโดยธรรม หลังจากนายอำนวยตายจำเลยได้ปิดเส้นทางดังกล่าวไม่ให้โจทก์และบริวารใช้เส้นทางเข้าออกผ่านที่ดินจำเลยอีก ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากทางภารจำยอม หากไม่รื้อถอนให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางการใช้ทางภารจำยอมของโจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ภารจำยอมมาโดยนิติกรรมซึ่งทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เมื่อไม่ได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 เป็นบุคคลสิทธิระหว่างจำเลยกับนายอำนวยเท่านั้นโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามเพราะไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ตายที่จะตกทอดไปยังโจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและไม่ใช่สิทธิอันเป็นมรดกของผู้ตายที่จะตกทอดแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1600
ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์และจำเลยต่างแถลงท้ากันให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายข้อเดียวว่า นิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่โจทก์ฟ้องจะมีผลตกทอดแก่ทายาทหรือไม่ ต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยานและประเด็นอื่นไม่ติดใจโต้เถียงกันต่อไป ถ้าศาลวินิจฉัยว่านิติกรรมนั้นตกทอดแก่ทายาทให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี ถ้าวินิจฉัยว่าไม่ตกทอดแก่ทายาท จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่โจทก์ฟ้องไม่ตกทอดแก่ทายาท โจทก์จึงเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่โจทก์ฟ้องตกทอดแก่ทายาท จำเลยจึงเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า พิพากษากลับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากภารจำยอมและห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางการใช้ทางภารจำยอมของโจทก์อีกต่อไป ให้ยกคำขอในส่วนที่ให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนได้เองเสีย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าสิทธิตามนิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่โจทก์ฟ้องไม่ตกทอดแก่ทายาทนั้น เห็นว่าการที่นายอำนวยสามีโจทก์มีสิทธิที่จะใช้ทางผ่านที่ดินจำเลยตามสัญญาที่ทำไว้กับจำเลย และจำเลยได้รับค่าตอบแทนไปแล้ว แม้จะมิได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่เป็นทรัพยสิทธิที่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299แต่ก็เป็นบุคคลสิทธิใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญา และมิใช่สิทธิที่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของนายอำนวยโดยแท้ เมื่อนายอำนวยตายไปสิทธิดังกล่าวย่อมตกทอดแก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599, 1600จำเลยจึงต้องแพ้คดีตามคำท้า”
พิพากษายืน.