คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ตั้งจำเลยที่ 3 ที่ 4 เป็นตัวแทนหรือ จำเลยที่ 1 ที่ 2 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 เชิดตัวเองว่าเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 3 ออกตั๋วแลกเงินในนามของโรงสีซึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 โดยใช้ตรายี่ห้อโรงสีประทับในตั๋วแลกเงินขายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์เรียกเก็บเงินจากผู้จ่ายตามที่ระบุไว้ในตั๋วไม่ได้ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของโรงสีปูแกง จำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วน และเป็นผู้จัดการโรงสี ใช้ชื่อและตรายี่ห้อว่า “โรงสีหุ้นส่วนปูแกง” ในทางการค้า แต่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ มอบหมายให้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ร่วมกันเป็นตัวแทน หรือเชิดจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ เป็นตัวแทน มีอำนาจดำเนินกิจการค้าของโรงสีหุ้นส่วนปูแกง ตลอดจนการออกตั๋วแลกเงินในนามของโรงสีหุ้นส่วนปูแกง โดยใช้ตรายี่ห้อของโรงสีหุ้นส่วนปูแกงประทับด้วย และจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ก็แสดงตนทั้งในนามส่วนตัวและตัวแทนจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ติดต่อธุรกิจของตนเองและของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ด้วย จำเลยที่ ๓ ออกตั๋วแลกเงินในนามของโรงสีหุ้นส่วนปูแกง โดยใช้ตรายี่ห้อโรงสีหุ้นส่วนปูแกงประทับ รวม ๙ ฉบับ จำเลยที่ ๓ รับเงินจากโจทก์ตามมูลค่าในตั๋วแลกเงินทั้ง ๙ ฉบับไปจากโจทก์แล้ว จำเลยที่ ๓ ได้นำเงินค่าขายตั๋วแลกเงินทั้ง ๙ ฉบับเข้าบัญชีเดินสะพัดของจำเลยที่ ๔ ซึ่งเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การสาขาลำปาง ต่อมาโจทก์ส่งตั๋วแลกเงินทั้ง ๙ ฉบับไปเรียกเก็บเงินจากผู้จ่ายตามที่ระบุไว้ในตั๋วแต่ผู้จ่ายปฏิเสธไม่ใช้เงิน ขอให้บังคับจำเลยทั้ง ๔ ร่วมกันชำระเงิน ๒๐๐,๐๐๐.๔๒ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ไม่เคยมอบให้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ เป็นตัวแทนหรือเชิดจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ เป็นตัวแทน จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ไม่เคยยินยอมให้จำเลยที่ ๑ ออกตั๋วแลกเงิน
จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ให้การว่า ไม่เคยรับแต่งตั้งมอบหมายให้เป็นตัวแทนและออกตั๋วแลกเงิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้ง ๔ ร่วมกันชำระเงิน ๒๐๐,๗๒๘.๔๒ บาท และดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ เป็นตัวแทนหรือจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ รู้แล้ว ยอมให้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ เชิดตัวเองว่าเป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ จำเลยที่ ๑ ต้องรับผิดต่อโจทก์ ชอบด้วยรูปคดีแล้ว
พิพากษายืน

Share