คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้สัญญาเช่าที่ดินระหว่างมารดาโจทก์กับกระทรวงศึกษาธิการจะระงับโดยเหตุที่มารดาโจทก์ถึงแก่กรรมก็ตาม แต่โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ ซึ่งตกทอดมาจากมารดาโจทก์ ดังนั้น เมื่อโจทก์ยังคงครอบครองที่พิพาทและต่อมาโจทก์ก็ได้ทำสัญญาเช่าที่พิพาทกับกระทรวงศึกษาธิการต่อไปอีกเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งขออาศัยมารดาโจทก์ปลูกบ้านในที่ดินบางส่วนของที่พิพาทได้ กระทรวงศึกษาธิการไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้แก่โจทก์อีก (ประชุมใหญ่ ครั้งที่17/2511)

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เดิมนางกิมไน้มารดาโจทก์เช่าที่ดิน 1 แปลงของกระทรวงศึกษาธิการ และเมื่อประมาณ 10 กว่าปีมานี้ จำเลยกับภรรยามาขออาศัยมารดาโจทก์ปลูกบ้านในที่ดินแปลงนี้บางส่วน ต่อมา พ.ศ. 2505 มารดาโจทก์ตาย และเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2507 โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวต่อจากกระทรวงศึกษาธิการ และโจทก์ให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป จำเลยไม่ยอม จึงขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนบ้านออกไป และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เดือนละ120 บาท นับแต่วันฟ้องจนถึงวันจำเลยรื้อถอนออกจากที่ดิน จำเลยให้การว่า มารดาโจทก์แบ่งที่ดินให้จำเลยเช่าปลูกบ้านอยู่อาศัย เสียค่าเช่าปีละ 60 บาท โดยความรู้เห็นยินยอมของกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นเวลา 16 ปีแล้ว จำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 และโจทก์ไม่เสียหาย

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยอาศัยปลูกบ้านเพื่อค้าขาย พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกจากที่ดินที่โจทก์เช่า

จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์เช่าที่ดินจากกระทรวงศึกษาธิการภายหลังที่จำเลยเช่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์เช่าที่ผิดจากกระทรวงศึกษาธิการหลังจากจำเลยปลูกบ้านในที่พิพาทถึง 10 ปี ขณะโจทก์ทำสัญญาเช่าโจทก์มิได้รับมอบที่ดินในส่วนซึ่งจำเลยปลูกบ้านอยู่ โดยเป็นที่ดินซึ่งกระทรวงศึกษาธิการยังส่งมอบให้โจทก์ไม่ได้ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกาว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง

ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า เมื่อนางกิมไน้มารดาโจทก์ถึงแก่กรรม แม้สัญญาเช่าที่ดินระหว่างนางกิมไน้กับกระทรวงศึกษาธิการจะระงับไปและโจทก์จะยังไม่ได้ทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากกระทรวงศึกษาธิการก็ดี แต่โดยในฐานะที่โจทก์เป็นบุตรนางกิมไน้ผู้ซึ่งให้จำเลยอาศัย โจทก์ย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตลอดจนความรับผิดต่าง ๆ ซึ่งตกทอดมาจากมารดาโจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599, 1600 และโจทก์คงครอบครองที่พิพาทอยู่ ยังไม่ได้ส่งมอบที่ดินคืนกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาโจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินจากกระทรวงศึกษาธิการต่อไปอีก กรณีเช่นนี้กระทรวงศึกษาธิการไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้แก่โจทก์ เพราะโจทก์ครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว จำเลยเป็นผู้อาศัยที่ดินบางส่วนปลูกบ้านจากนางกิมไน้ เมื่อนางกิมไน้ถึงแก่กรรม โจทก์ซึ่งเป็นบุตรมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ออกไปจากที่อาศัยได้

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share