คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้าหลวงประจำจังหวัดในนามประธานคณะกรรมการจังหวัด โดยหน้าที่ราชการเป็นผู้อำนวยการและจัดการควบคุมดูแลและรับผิดชอบการขนส่งและการจำหน่ายข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น เมื่อผู้รับขนส่งประมาทเลินเล่อทำให้ข้าวสารของทางราชการนั้นเสียหายไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องว่า โจทก์เป็นข้าหลวงประจำจังหวัดตรัง โดยหน้าที่ราชการเป็นผู้อำนวยการและจัดการควบคุมดูแลและรับผิดชอบการขนส่งและการจำหน่ายข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดตรัง จำเลยที่ 1 ทำสัญญากับนายเริ่มตัวแทนของโจทก์ รับส่งข้าวสารของโจทก์ 125 กระสอบ โดยเรือยนต์จากท่าเรือกันตังไปยังอำเภอสิเกา เพื่อขายปันส่วนแก่ประชาชนในท้องที่นั้นเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของจำเลย ข้าวสารจมน้ำทะเลหมดคุณภาพส่งไปยังอำเภอสิเกาหาได้ไม่ เป็นการที่จำเลยทำผิดสัญญา โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยว่าตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดไม่เป็นนิติบุคคล เข้าเป็นโจทก์ไม่ได้และข้าวสารเป็นของทางราชการไม่ใช่ของโจทก์ ๆ จึงเป็นโจทก์ไม่ได้

ต่อมาคู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมาย ข้อเถียงว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ถ้าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ยอมแพ้ถ้าโจทก์มีอำนาจฟ้อง จำเลยยอมแพ้ ยอมใช้ค่าเสียหายตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องโจทก์ปรากฏดังกล่าว ข้อที่ว่าใช่นิติบุคคลหรือไม่ใช่นิติบุคคลจึงไม่เกี่ยว เมื่อข้าวสารของทางราชการต้องเสียหายไป โจทก์ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกข้าวสารหรือค่าเสียหายให้แก่ทางราชการ

จึงพิพากษายืน

Share