คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การประมูลทำนาพิพาทระหว่างคู่ความในคดีนั้นเป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในศาลเกี่ยวกับคดีที่ดำเนินการพิจารณาอยู่ เมื่อศาลสั่งให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้นแล้วและคู่ความฝ่ายที่ประมูลได้ได้ทำสัญญาไว้ต่อศาลว่าจะนำเงินมาวางศาลเช่นนี้ ศาลก็ย่อมมีอำนาจออกคำบังคับให้โจทก์นำเงินมาวางศาลได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีให้มีคำพิพากษาขึ้นมาเสียก่อน กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษา (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2499)

ย่อยาว

คดีเดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ระหว่างพิจารณาคู่ความตกลงกันให้ศาลจัดการประมูลทำนารายพิพาทสำหรับปีทำนา พ.ศ. 2495 โจทก์ประมูลได้เป็นเงิน 9,380 บาท ศาลสั่งให้เป็นไปตามที่ตกลงกันแต่โจทก์ขอนาโฉนดที่ดินมาวางประกันแทนเงินศาลสั่งอนุญาตโดยให้โจทก์ทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลว่าเมื่อสิ้นฤดูเก็บเกี่ยวแล้วจะนำเงินมาวางศาล

คดีถึงที่สุดชั้นศาลอุทธรณ์โดยพิพากษาให้ยกฟ้อง จำเลยยื่นคำร้องศาลจึงได้ออกคำบังคับให้โจทก์นำเงิน 9,380 บาทมาวางศาลใน 1 เดือน

โจทก์รับคำบังคับแล้วแถลงว่าจำเลยเป็นผู้ทำนารายพิพาทเองและรับว่าจะนำเงินมาวางศาลแทนโจทก์ อนึ่งโดยข้อ กฎหมายจำเลยไม่มีสิทธิที่จะบังคับเอาแก่โจทก์ได้เพราะ ศาลมิได้มีคำพิพากษาในเรื่องนี้

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่าโจทก์สืบไม่สมว่าจำเลยทำนาและรับว่าจะเอาเงินมาวางศาลแทนโจทก์ การประมูลทำนาเป็นวิธีการดำเนินการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างคดีย่อมมีผลผูกมัดและบังคับคดีกันได้ ให้ยกคำแถลงของโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาโดย ที่ประชุมใหญ่เห็นว่าการประมูลทำนาพิพาทกันนี้เป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในศาลเกี่ยวกับคดีที่กำลังดำเนินกระบวนพิจารณาอยู่ เมื่อคู่ความตกลงกันและศาลสั่งให้เป็นไปตามนั้นจนโจทก์ทำสัญญาไว้ต่อศาลว่าจะนำเงินมาวางศาลดังนี้แล้ว ศาลก็ย่อมมีอำนาจบังคับโจทก์ได้หาใช่เรื่องเกี่ยวกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาชี้ขาดไม่ ส่วนข้อเท็จจริงอื่นที่โจทก์ฎีกามานั้นชั้นอุทธรณ์มิได้โต้แย้งไว้ จะมาคัดค้านชั้นฎีกาไม่ได้ พิพากษายืน

Share