แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารสัญญากู้ซึ่งบริษัทจำกัดอันเป็นนิติบุคคลกู้เงินบุคคลอื่นมาหมุนเวียนในธุรกิจการค้า โดยทางกรรมการของบริษัทที่กระทำไปโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่และข้อบังคับ ทั้งข้อบังคับก็มิได้ระบุห้ามการกู้ยืม ย่อมอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัทจึงเป็นนิติกรรมอันใช้บังคับได้ตามกฎหมาย หาใช่เป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์หรือส่วนตัวกรรมการผู้นั้นไม่
ย่อยาว
คดีสามสำนวนนี้โจทก์แต่ละคนต่างฟ้องคนละสำนวนว่าจำเลยผิดสัญญากู้เงินจำนวนแรก 30,000 บาท สองสำนวนหลังสำนวนละ 20,000 บาท ขอให้ชำระต้นเงินและดอกเบี้ย
จำเลยให้การปฏิเสธทั้งสามสำนวน
ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินกู้และดอกเบี้ยตามฟ้องทั้งสามสำนวน
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเอกสารสัญญากู้หมาย จ.1, จ.5, จ.7 ดังกล่าวจำเลยได้ทำขึ้นถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทจำเลยที่จดทะเบียนไว้ทุกประการ จำเลยมิได้ปฏิเสธว่ามิใช่ลายมือชื่อกรรมการบริษัทหรือมิใช่ตราของบริษัทจำเลย
จำเลยได้แสดงวัตถุประสงค์แห่งการกู้เงินบุคคลภายนอกมาเพื่อการค้าโดยทางกรรมการบริษัทนำเงินมาใช้หมุนเวียนในธุระกิจการค้าของจำเลยเมื่อจำเลยได้แสดงออกโดยการกู้ยืม ในข้อบังคับของบริษัทก็มิได้ระบุห้ามการกู้ยืมเงินทางกรรมการของบริษัทซึ่งกระทำได้โดยชอบอำนาจและหน้าที่เช่นนี้ก็เป็นนิติกรรมอันใช้บังคับได้ตามกฎหมายจะว่าเป็นการกระทำโดยนอกวัตถุประสงค์หรือเป็นการส่วนตัวหาได้ไม่ จึงพิพากษายืน