คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และขายอะไหล่ รับซื้อหัวเทียนของกลางจำนวนมากในราคาที่ถูกกว่าราคาขายส่งในท้องตลาดจากคนแปลกหน้าโดยไม่มีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานในการซื้อขาย แล้วนำไปซุกซ่อนในชั้นที่สองของร้าน พฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อได้ว่าจำเลยรับซื้อหัวเทียนของกลางโดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคสอง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา357 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘จำเลยเป็นเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และขายอะไหล่ จำเลยต้องทราบถึงราคาที่แท้จริงของหัวเทียนของกลาง ได้ความจากนายภิรมณ์ ตันติพาณิชย์กุล ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดของผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายขายหัวเทียนให้แก่ตัวแทนในราคาหัวละ 14 บาทเศษถึง 15 บาท ตามชนิดของหัวเทียน ดังนั้นราคาที่ตัวแทนขายส่งให้แก่ร้านค้าต้องสูงกว่าราคาดังกล่าวตามที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยรับซื้อในราคา 13 บาท จึงเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ผู้เสียหายขายให้แก่ตัวแทนเสียอีกยิ่งกว่านั้นที่ศาลอุทธรณ์คำนวณแล้วปรากฏว่า ความจริงจำเลยซื้อมาในราคาที่ต่ำกว่านั้นอีก คือในราคาประมาณหัวละ 9 บาทเท่านั้น ตรงตามราคาที่จำเลยให้การไว้ในชั้นสอบสวน ราคาที่จำเลยซื้อจริงจึงยิ่งต่ำกว่าราคาขายส่งในท้องตลาดมาก การที่จำเลยรับซื้อหัวเทียนของกลางจำนวนมากในราคาที่ถูกกว่าราคาขายส่งในท้องตลาดจนผิดสังเกตจากคนแปลกหน้าโดยไม่มีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานในการซื้อขาย ซื้อแล้วเอาไปซุกซ่อนในชั้นที่สองของร้าน ตามพฤติการณ์แห่งคดีดังกล่าวมีเหตุให้ควรเชื่อได้ว่า จำเลยรับซื้อหัวเทียนของกลางโดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ซึ่งก็ตรงตามคำรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลย จำเลยเป็นเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และขายอะไหล่ การที่จำเลยรับซื้อหัวเทียนของกลางดังกล่าวไว้ก็เพื่อค้ากำไร การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น’ แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 โดยไม่ระบุวรรคไว้ด้วยนั้นไม่เป็นที่ชัดแจ้งตรงกับคำวินิจฉัย สมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา357 วรรคสอง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share