คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อความในบันทึกการร้องทุกข์ของโจทก์มีว่า “…..มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้สั่งจ่ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดในชั้นนี้ขอรับเช็คคืนไปเก็บรักษาไว้เพื่อจะได้ติดต่อกับผู้สั่งจ่ายอีกทางหนึ่ง” ดังนี้เป็นการแจ้งความกล่าวหาโดยมีเจตนาให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ การขอรับเช็คคืนไปเพื่อติดต่อกับผู้สั่งจ่ายมิใช่เป็นข้อความที่แสดงว่ายังไม่มอบคดีให้ จึงเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (7) แล้ว เมื่อโจทก์ร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และโจทก์ฟ้องคดีภายในกำหนด 5 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2531)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ เป็นเช็ค ๒ ฉบับสั่งจ่ายเงินฉบับละ ๕๐,๐๐๐ บาท
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องไว้พิจารณา
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ หลบหนี ศาลชั้นต้นจึงจำหน่ายคดีคงดำเนินคดีจำเลยที่ ๓ ต่อไป แล้วพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๓ ตามเช็คฉบับละ ๔ เดือน รวมจำคุก ๑๐ เดือน
จำเลยที่ ๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยที่ ๓ ฎีกาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะการที่โจทก์อ้างว่าได้ร้องทุกข์ภายในอายุความ ไม่เป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายนั้น ข้อความในบันทึกการร้องทุกข์มีว่า “…..มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้สั่งจ่ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดในชั้นนี้ขอรับเช็คคืนไปเก็บรักษาไว้ เพื่อจะได้ติดต่อกับผู้สั่งจ่ายอีกทางหนึ่ง” ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่าข้อความในบันทึกการร้องทุกข์ เอกสารหมาย จ.๕ ในตอนต้นระบุว่ามาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้สั่งจ่ายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดแสดงว่าโจทก์ได้แจ้งความกล่าวหาโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษแม้จะมีข้อความในตอนหลังว่าในชั้นนี้ขอรับเช็คคืนไปเก็บรักษาไว้ เพื่อจะได้ติดต่อกับผู้สั่งจ่ายอีกทางหนึ่งก็ตาม ก็มิใช่เป็นข้อความที่แสดงว่ายังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการดังจำเลยฎีกา การขอรับเช็คกลับคืนไปก็เพื่อติดต่อกับผู้สั่งจ่ายอีกทางหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่มีผลกระทบต่อการแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ดังนั้นข้อความในเอกสารหมาย จ.๕ จึงเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๗) แล้ว เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๔ ผู้รับมอบอำนาจให้แจ้งความก็มาแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๔ ซึ่งเป็นเวลาไม่เกิน ๓ เดือน นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และโจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ ภายในกำหนดห้าปีคดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๖ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมานั้น ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยที่ ๓ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share