คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12031/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้พฤติการณ์ที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ในเวลากลางคืน 4 ครั้ง ต่างวันกันจะส่อไปในทางที่ผู้เสียหายที่ 3 บุตรผู้เยาว์ของผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 รู้เห็นยินยอม แต่การที่จำเลยเข้าไปในบ้านเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายที่ 3 โดยผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไม่ยินยอมถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 276, 364, 365
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 365 (3) ประกอบมาตรา 364 ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรากับความผิดฐานบุกรุกในเวลากลางคืนเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานข่มขืนกระทำชำเราซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 4 กระทง จำคุกกระทงละ 7 ปี รวมจำคุก 28 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีจากพยานหลักฐานของโจทก์เท่าที่นำสืบมานับว่าเป็นข้อพิรุธน่าสงสัยตามสมควรว่าจำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายที่ 3 โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้เสียหายที่ 3 อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกฟ้องสำหรับความผิดฐานนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ส่วนความผิดฐานบุกรุกซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยไม่มีเหตุอันสมควรบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ในเวลากลางคืน 4 ครั้งต่างวันกันนั้น เห็นว่า แม้พฤติการณ์ส่อไปในทางที่ผู้เสียหายที่ 3 รู้เห็นยินยอมให้จำเลยเข้าไปในบ้าน แต่เป็นการเข้าไปเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายที่ 3 บุตรผู้เยาว์ของผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุอันเป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านไม่ยินยอมและถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 (3) ประกอบมาตรา 364 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 4 กระทง จำคุกกระทงละ 4 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4

Share