คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ขณะที่จำเลยทั้งสองพูดว่า “ถ้ามึงแน่จริงมึงออกมาทำไมไม่ออกมา ออกมาโดน แน่” นั้น จำเลยทั้งสองอยู่ที่หน้าบ้าน ของผู้เสียหาย แสดงว่าเป็นการบังคับขู่เข็ญไม่ให้ผู้เสียหาย ออกไปจากบ้าน หากขืนออกไปจะถูกจำเลยทั้งสองทำร้าย หาใช่เป็นเพียงคำท้าให้ออกไปต่อสู้กันไม่ คำพูดเช่นนี้ใช้กับ ผู้ใดโดยปกติแล้วผู้นั้นย่อมตกใจกลัว เมื่อข้อเท็จจริง ฟังได้ว่าผู้เสียหายเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392, 83
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ โดยอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าขณะที่ผู้เสียหายอยู่ในบ้านกับเด็กหญิงจิราพรบุตรสาว จำเลยที่ 1มาร้องเรียกผู้เสียหายที่หน้าบ้านว่า “เฮ้ย มึงไม่แน่จริงนี่หว่าเฮ้ยถ้ามึงแน่จริงมึงออกมาซิวะ มึงทำไมไม่ออกมาวะ ออกมาโดนแน่”ขณะนั้นจำเลยที่ 2 ยืนอยู่หน้าบ้านตนเองซึ่งอยู่เยื้องบ้านผู้เสียหาย พูดว่า “ให้มันอยู่แต่ในบ้าน อย่าให้มันออกมา ถ้ามันออกมาเอาแม่มันเลย” ซึ่งข้อความที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยแต่ละคนพูด สอดคล้องกับที่โจทก์ระบุในคำฟ้อง จำเลยทั้งสองไม่แก้ฎีกาข้อเท็จจริงจึงฟังเป็นยุติตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาดังกล่าวแล้วมีปัญหาวินิจฉัยว่า การกระทำเช่นนี้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 หรือไม่ เห็นว่าคำพูดของจำเลยทั้งสอง ประกอบการกระทำและสถานที่ แสดงว่าเป็นการบังคับขู่เข็ญไม่ให้ผู้เสียหายออกไปจากบ้าน หากขืนออกไปจะถูกจำเลยทั้งสองทำร้าย หาใช่เป็นเพียงคำท้าให้ออกไปต่อสู้กันเท่านั้นไม่ คำพูดเช่นนี้ใช้กับผู้ใด โดยปกติแล้วผู้นั้นย่อมตกใจกลัว ซึ่งโจทก์มีผู้เสียหายมาเบิกความเป็นพยานยืนยันว่าผู้เสียหายรู้สึกตกใจกลัวอันมีเหตุผลให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้เสียหายเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดตามฟ้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 392 ลงโทษจำคุกคนละ 1 เดือน ปรับคนละ 1,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ระหว่างรอการลงโทษจำคุกให้คุมความประพฤติจำเลยทั้งสองโดยให้จำเลยทั้งสองรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30

Share