แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยซึ่งเป็นตำรวจไปจับแผ่นกระดาษจดหมายสลากกินรวบที่นางพีเป็นผู้ขาย ก่อนจับได้ก็มีการยื้อแย่งกัน และจับได้บนบ้านของโจทก์ จำเลยพูดกับโจทก์ว่า “เดี๋ยวจับเป็นอันธพาลทั้งพ่อทั้งลูก” (โจทก์ที่ 2 เป็นบุตรสาวของโจทก์ที่ 1) ดังนี้ ไม่มีมูลเป็นความผิดฐานใส่ความหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 เพราะจำเลยมิได้กล่าวว่าโจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลอันธพาล เป็นคำขู่เพื่อมิให้โจทก์ทั้งสองเข้าขัดขวางช่วยเหลือผู้กระทำผิดเท่านั้น
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า ตำรวจ(จำเลย) จับแผ่นกระดาษจดหมายเลขสลากกินรวบที่นางพีเป็นผู้ขาย ก่อนจับได้ก็มีการยื้อแย่งกัน และจับได้บนบ้านของโจทก์ (โจทก์ที่ ๒ เป็นบุตรของโจทก์ที่ ๑) จำเลยที่ ๑ กล่าวว่า เดี๋ยวจับเป็นอันธพาลทั้งพ่อทั้งลูก
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่มีมูลเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๖ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคำกล่าวของจำเลยที่ ๑ นี้ หาใช่เป็นการใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ไม่ เพราะจำเลยมิได้กล่าวว่าโจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลอันธพาลเป็นคำขู่เพื่อมิให้โจทก์ทั้งสองเข้ามาขัดขวางช่วยเหลือผู้กระทำผิดเท่านั้น จึงไม่มีมูลเป็นความผิดฐานใส่ความหมิ่นประมาทดังฟ้อง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖) พิพากษายืน