แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นเทศบาลละเว้นหน้าที่อันจะต้องกระทำ กล่าวคือ จัดให้ถมบ่อทำให้เป็นพื้นเดียวกับพื้นถนนเสียก่อนที่จะเปิดถนนให้รถผ่านไปมาได้ ทั้งยังปรากฏว่า จำเลยมิได้จัดให้มีสิ่งกีดกั้นบ่อนี้เป็นเครื่องหมายให้สะดุดตาแก่ผู้ที่ผ่านไปมาและในเวลากลางคืนก็มิได้จัดให้มีโคมไฟจุดให้ความสว่างตามสมควร จำเลยย่อมเห็นได้อยู่แล้วว่าเป็นสิ่งอันตรายแก่รถและผู้คนสัญจรไปมาอย่างมากที่จะปล่อยให้มีบ่ออยู่เช่นนั้น จนเป็นเหตุให้รถโจทก์ขับไปชนขอบบ่อนี้เข้าและเกิดการเสียหายขึ้นดังนี้ต้องถือว่า เป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์
ย่อยาว
ได้ความว่า จำเลยจัดการขยายถนนนครไชยศรีทำให้บ่อน้ำซึ่งขอบเป็นคอนกรีตเข้ามาอยู่ในตัวถนนทั้งเปิดถนนที่ขยายให้รถสัญจรไปหาได้โดยยังมิได้ถมบ่อทำให้เรียบเป็นพื้นถนนธรรมดา และบ่อที่เข้ามาอยู่ในถนนนี้ จำเลยก็มิได้จัดให้มีเครื่องหมายและสัญญาณไฟติดตั้งให้เป็นที่สังเกตุเห็นได้ในเวลาค่ำคืน รถยนต์ของโจทก์ขับรถมาชนบ่อนี้เข้าโดยมิใช่ความประมาทเลินเล่อของโจทก์ รถยนต์เสียหายและโจทก์ได้รับบาดเจ็บ
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลทั้งสองให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ ๑๒,๔๐๐ บาท กับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ครึ่ง ต่อปี ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ
ข้อวินิจฉัยของศาลฎีกามีว่า จำเลยเป็นเทศบาลนครมีหน้าที่ต้องทำในเขตเทศบาลให้มีและบำรุงทางบกทางน้ำตาม พ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๕๖ ประกอบด้วย มาตรา ๕๐, ๕๓ การขยายถนนนครไชยศรีนี้ก็อยู่ในหน้าที่ของจำเลยแต่เมื่อขยายถนนเสร็จเปิดให้รถสัญจรไปมาในถนนได้แล้ว ปรากฏว่ายังมีบ่อสาธารณะเข้าไปอยู่ในถนน บ่อนี้ขอบเป็นคอนกรีตสี่เหลี่ยมกว้างยาวด้านละ ๑ เมตรา และสูงจากพื้นดินครึ่งเมตร จำเลยย่อมเห็นได้อยู่แล้วว่าเป็นสิ่งอันตรายแก่รถและผู้คนสัญจรไปมาอย่างมาที่จะปล่อยให้มีบ่ออยู่เช่นนั้น จำเลยละเว้นหน้าที่อันจะต้องกระทำ กล่าวคือ จัดให้ถมบ่อทำให้เป็นพื้นเดียวกับพื้นถนนเสียก่อนที่จะเปิดถนนให้รถผ่านไปมาได้ ทั้งยังปรากฏว่าจำเลยได้จัดให้มีสิ่งอันตรายแก่รถและผู้คนสัญจรไปมาอย่างมาที่จะเปิดถนนให้รถผ่านไปมาได้ ทั้งยังปรากฏว่าจำเลยได้จัดให้มีสิ่งกีดกั้นบัดนี้เป็นเครื่องหมายให้สลุดตาแก่ผู้คนที่ผ่านไปมา และในเวลากลางคืนก็มิได้จัดให้มีโคมไฟจุดให้ความสว่างตามสมควร จนเป็นเหตุให้รถโจทก์ขับไปชนขอบบ่อนี้ เข้าและเกิดการเสียหายขึ้น ดังนี้ต้องถือว่า
เป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์
