คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่อ้างว่า ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะจำเลยไม่เคยได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาดังกล่าว แต่จำเลยไม่นำส่งหมายนัด และสำเนาคำร้องดังกล่าวให้โจทก์ภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งศาล ดังนี้เป็นกรณีที่จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด ศาลย่อมสั่งยกคำร้องได้
เมื่อศาลสั่งยกคำร้องดังกล่าวแล้ว จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งกลับยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนคำร้องฉบับแรกนั้นอีก อ้างว่าทนายของจำเลยทิ้งคดีไม่ดำเนินการตามที่ศาลสั่ง และจำเลยอยู่ต่างจังหวัด ดังนี้ไม่เป็นเหตุให้จำเลยยกเป็นข้ออ้างขอให้ศาลไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ศาลยกไปแล้วอีกได้ เพราะเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเองที่ไม่เอาใจใส่ในคดีของตน และจำเลยจะอ้างว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมก็ไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปเพื่อคู่ความทั้งสองฝ่ายมิใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายด้วย

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันกับศาลชั้นต้นให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ๖๓,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๕๐๐ บาทแทนโจทก์ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๑๘ โดยจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าโจทก์มาศาลจำเลยทั้งสองทราบนัดแล้วไม่มาศาล จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟัง ถือว่าจำเลยทั้งสองทราบคำพิพากษาแล้ว ต่อมาศาลส่งคำบังคับให้จำเลยที่ ๑ ปฏิบัติตามคำพิพากษา
จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องลงวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๑๙ ว่าจำเลยที่ ๑ ไม่เคยได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ผู้ที่ลงชื่อรับหมายนัดไม่ใช่ผู้ที่จะรับแทนได้ตามกฎหมาย การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบ ไม่ผูกพันจำเลยที่ ๑ ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาและอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยที่ ๑ ฟัง เพื่อให้โอกาสแก่จำเลยที่ ๑ ต่อสู้คดีต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งนัดไต่สวนคำร้อง หมายนัดและส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์ โดยให้จำเลยที่ ๑ นำส่งภายใน ๗ วันมิฉะนั้นจะยกคำร้อง ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ ไม่จัดการนำส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องให้โจทก์ตามคำสั่งศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙ ว่า ให้งดไต่สวนคำร้องและยกคำร้องของจำเลยที่ ๑ ค่าคำร้องเป็นพับ
ครั้นวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๙ จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องอีกว่า ทนายจำเลยที่ ๑ ทิ้งคดีไม่ดำเนินการภายใน ๗ วันตามที่ศาลสั่ง จำเลยที่ ๑ ได้รับความเสียหายและจำเลยที่ ๑ อยู่ต่างจังหวัด ขอศาลให้โอกาสแก่จำเลยที่ ๑ โดยมีคำสั่งไต่สวนคำร้องอีกครั้ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอให้สั่งไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ ๑ ใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นได้นัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ ๑ ที่อ้างว่าการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว แต่จำเลยที่ ๑ ไม่นำส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องให้โจทก์ภายใน ๗ วันตามคำสั่งศาลและศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ ๑ ในแล้วนั้น เป็นกรณีที่จำเลยที่ ๑ เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ ๑ ได้ และเมื่อศาลสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ ๑ แล้ว จำเลยที่ ๑ มิได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แต่กลับยื่นคำร้องฉบับหลังลงวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๗ ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องฉบับแรกที่ศาลชั้นต้นสั่งยกไปแล้วอีก ศาลฎีกาเห็นจำเลยที่ ๑ ไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องฉบับแรก และข้ออ้างของจำเลยที่ ๑ ที่ว่าทนายของจำเลยทิ้งคดีไม่ดำเนินการตามที่ศาลสั่ง และจำเลยที่ ๑ อยู่ต่างจังหวัดนั้น ก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยที่ ๑ ยกเป็นข้ออ้างขอให้ศาลไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ศาลยกไปแล้วอีกได้ เพราะเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยที่ ๑ เอง ที่ไม่เอาใจใส่ในคดีของตนส่วนข้ออ้างเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมนั้น จะต้องเป็นไปเพื่อคู่ความทั้งสองฝ่ายมิใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายด้วย เมื่อฟังว่าเป็นความผิดของจำเลยที่ ๑ ที่ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด จนกระทั่งศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องฉบับแรกไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่จะไต่สวนคำร้องให้จำเลยที่ ๑ อีก คำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว ฎีกาจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share