คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้หลอกหลวงขอซื้อน้ำอัดลมไปจากหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด แล้วไม่ยอมชำระราคากลับปฏิเสธว่า ไม่ได้มาติดต่าขอซื้อน้ำอัดลม ดังนี้ ถือได้ว่าผู้จัดการนั้นเป็นผู้เสียหาย เพราะเป็นผู้ถูกหลอกหลวงส่วนน้ำอัดลมจะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัหรือไม่ หาเป็นเหตุกระทำให้ผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่แล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายแล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้อุบายหลอกลวงประกอบด้วยเอาความเท็จมากล่าวแก่นายเนี่ยวฮั้ว แซ่โง้วว่า จำเลยจะขอซื้อน้ำอัดลมชนิดน้ำส้มน้ำหวานต่าง ๆ ไปจำหน่ายโดยจะชำระเงินภายหลัง ทั้งนี้โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงนายเนี่ยวฮั้วให้หลงเชื่อและส่งน้ำอัดลมต่างๆมอบให้จำเลยไปตามจำนวนที่จำเลยต้องการ แล้วจำเลยไม่ยอมชำระราคาและปฏิเสธว่าไม่ได้มาติดต่อ ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๔, ๓๐๕. ฯลฯ
จำเลยปฏิเสธความผิด และตัดฟ้องว่านายเนี่ยวฮั้วไม่ใช่ผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยฉ้อโกงทรัพย์ของนายเนี่ยวอั้ว แต่ได้ความว่าเป็นทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอียวไต่ ซึ่งเป็นการนิติบุคคลและรูปคดีไม่ใช่ฉ้อโกง จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงนายเนี่ยวฮั้ว แซ่โง้ว ทางพิจารณาได้ความวว่าจำเลยได้มาขอซื้อน้ำอัดลมจากนายเนี่ยวฮั้ว จริง ๆ หากเป็นการเสียหาย เพราะถูกจำเลยหลอกลวง นายเนียวฮั้วก็เป็นผู้เสียหายโดยตรง เพราะเป็นผู้ถูกหลอกลวง แม้จะปรากฎว่านายเนี่ยวฮั้วเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนเอี่ยวไต๋ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากจากหุ้นส่วนก็ตาม น้ำอัดลมจะเป็นของห้างหุ้นส่วนเอี่ยวไต๋ จำกัด หรือไม่ หาเป็นเหตุทำให้นายเนี่ยวฮั้ว ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่แล้วกลับกลายเป็นใิใช่ผู้เสียหายไม่
จึงพิพากษายืน

Share