แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บิดาของจำเลยเป็นผู้ติดต่อรับซื้อรถจักรยานยนต์จากคนร้ายตลอดมา ส่วนจำเลยได้นำเอารถจักรยานยนต์เหล่านั้นไปฝากญาติไว้ เพื่อหาคนซื้อต่อไปตามที่บิดาของจำเลยใช้ให้ไป ดังนี้ บิดาของจำเลยและจำเลยย่อมมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
ย่อยาว
คดีนี้ ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษารวมกันกับคดีอาญาดำที่ ๒๗๕๙/๒๕๐๗
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจร่วมกันกับพวกที่โจทก์ฟ้องอีกคดีหนึ่ง เป็นตัวการลักรถจักรยานยนต์ของกลาง หรือบังอาจสมคบร่วมกันกับพวกรับเอารถจักรยานยนต์ดังกล่าวไว้จากคนร้ายโดยรู้อยู่ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕, ๓๕๗, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าความผิดฐานลักทรัพย์ โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นขณะลัก จึงลงโทษจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์ไม่ได้ ส่วนข้อหารับของโจรฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมรับรถของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นรถที่ได้มาจากการลัก พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๗, ๘๓ ลดรับแล้วคงจำคุกจำเลย ๑ ปี ๔ เดือน
นายสุทัศน์ นายจำนงค์ จำเลยในคดีอาญาดำที่ ๒๗๕๙/๒๕๐๗ แดงที่ ๒๓๑๗/๒๕๐๘ ของศาลชั้นต้น และพลทหารสุเทพจำเลยในคดีนี้ต่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า รูปคดีมีพฤติการณ์ให้เชื่อว่านายสุทัศน์และนายจำนงค์จำเลยซึ่งโจทก์แยกฟ้องอีกคดีหนึ่งนั้น ได้รับรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ สำหรับพลทหารสุเทพจำเลยคดีนี้ หลักฐานพยานโจทก์ฟังไม่ได้ พิพากษาแก้เฉพาะพลทหารสุเทพจำเลยให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษพลทหารสุเทพจำเลย
ศาลฎีกาฟังว่า พลทหารสุเทพจำเลยได้เอารถจักรยานยนต์ของกลางนี้ไปฝากนายจำนงค์ไว้ตามที่บิดาใช้ให้ไป อันเป็นความผิดฐานรับของโจร จะอ้างเหตุที่บิดาใช้ให้ทำก็ต้องทำเพื่อไม่ต้องรับโทษหาได้ไม่
พิพากษาแก้ ให้ลงโทษพลทหารสุเทพจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น