คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน บุคคลจะได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ได้ก็เฉพาะแต่การกระทำตามกฎหมายที่ดิน ดั่งที่ได้มีบทบังคับไว้ในมาตรา 1334 กฎหมายที่ดินดั่งว่านี้ได้มีปรากฏ เป็นบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดินเป็นลำดับมาจนถึงฉบับที่ 7 พ.ศ.2486
การร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ซึ่งผู้ร้องได้ครอบครองมา 20 ปีเศษเป็นของผู้ร้องนั้น ได้มีมาตรา 13,15 แห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7)2486บังคับไว้แล้ว ส่วนการได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 1382 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น ต้องเป็นทรัพย์ที่บุคคลมีกรรมสิทธิ์อยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่ที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญ
หมายเหตุได้ซ้อมความเข้าใจกับเจ้าของแล้วว่าท่านไม่ได้หมายความว่าการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินแต่ก่อนๆ นั้นมีได้เฉพาะตามพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน 2486

ย่อยาว

คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่า ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่เศษ ซึ่งผู้ร้องได้เข้าครอบครองโก่นสร้างมา 20 ปีเศษ เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งไปยังหอทะเบียนที่ดินให้ทำการรังวัดออกหน้าโฉนดให้ผู้ร้อง ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องของผู้ร้องเป็นคำฟ้อง ต้องทำตามแบบคำฟ้องตามแบบพิมพ์ที่จัดไว้ และตามกฎหมายที่ผู้ร้องอ้างมาไม่ได้ให้อำนาจผู้ร้องจะเสนอคดีต่อศาลได้ จึงสั่งไม่รับคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องแสดงว่า ที่ดินนั้นเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(1) ซึ่งบุคคลจะได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ได้ ก็เฉพาะแต่การกระทำตามกฎหมายที่ดิน ดังที่ได้มีบทบังคับไว้ในมาตรา 1334 กฎหมายที่ดินดังว่านี้ ก็ได้มีปรากฏเป็นบทบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดินเป็นลำดับมา จนถึงฉบับที่ 7 กรณีเช่นของผู้ร้องนี้ได้มีมาตรา 13, 15 แห่งพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) 2486 บังคับไว้แล้วส่วนการได้สิทธิในอสังหาริมทรัพย์โดยทางอายุความได้สิทธิตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1382 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้นอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องเป็นทรัพย์ที่บุคคลมีกรรมสิทธิ์อยู่ก่อนแล้วสาธารณสมบัติของแผ่นดินหาใช่ทรัพย์สินของผู้อื่นไม่ หากเป็นแต่ทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน บทบัญญัติของพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) 2486 ประกอบกับกฎกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 1 มกราคม 2486 วางวิธีการให้ผู้ขอจดทะเบียนการได้มา ซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ให้ต้องยื่นคำขอพร้อมด้วยคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลนั้น ก็มีความปรากฏชัดเจนอยู่แล้วในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติและในข้อ ก. แห่งกฎนั้นว่า เป็นวิธีการสำหรับการได้มาซึ่งที่ดิน ที่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์แล้วเท่านั้น หาใช่เรื่องสำหรับที่รกร้างว่าเปล่าที่ไม่มีหนังสือสำคัญ ซึ่งมีกฎหมายบังคับไว้ชัดเจน

พิพากษายืน

หมายเหตุ ได้ซ้อมความเข้าใจกับเจ้าของแล้วว่าท่านไม่ได้หมายความว่าการได้กรรมสิทธิ์ที่ดิน แต่ก่อน ๆ นั้น มีได้เฉพาะตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน 2486

Share