คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายโดยหนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว ย่อมมีผลให้บุคคลผู้นั้นหลุดพ้นจากการล้มละลาย จึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะพิพากษาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีกต่อไป

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลได้มีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. และพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ต่อมาได้สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ล. หุ้นส่วนผู้จัดการ ล. ยื่นคำร้องขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายของ ล.

เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นไม่เห็นชอบด้วยการประนอมหนี้และพิพากษาให้ ล. ล้มละลาย

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และ ล. ลูกหนี้ฎีกา

ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำแถลงว่า บัดนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. กับ ล. หุ้นส่วนผู้จัดการแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของ ล. และห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. ไปแล้วตามมาตรา 135(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย โดยหนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว ย่อมมีผลทำให้ ล. และห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. ซึ่งเป็นบุคคลล้มละลายหลุดพ้นจากการล้มละลาย และเมื่อหนี้สินของลูกหนี้ได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว คดีจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิพากษาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายของ ล. อีกต่อไป

ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา

Share