แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เซ็นสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือนั้น ตามกฎหมายต้องรับผิดต่อผู้ถือหรือผู้ทรงเช็คนั้นเว้นแต่จะพิศูจน์ได้ว่าได้มีการโอนด้วยคบคิดกันฉ้อฉล
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เขียนเช็คจ่ายเงินสดจากธนาคารเอเซียให้กับขุนประเสริฐศุภมาตรา หรือผู้ถือ ๓ ฉะบับ รวมเป็นเงิน ๔๘๐๐ บาท ขุนประเสริฐ ฯ ได้นำเช็คทั้ง ๓ ฉะบับมอบให้โจทก์ ขอให้โจทก์จ่ายเงินให้ก่อนแล้วไปเบิกเงินเอาจากธนาคารเอเซียภายหลัง โจทก์ไปเบิกใบเช็คจากธนาคารเอเซียไม่ได้ เพราะเงินของจำเลยไม่มีในธนาคาร ทำให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้จำเลยชำระเงิน จำนวนดังกล่าวรวมกับค่าเสียหายเป็นเงิน ๕๒๕๐ บาทให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
จำเลยต่อสู้ว่าลงนามในเช็คโดยถูกหลอกลวง ฯลฯ
ศาลแพ่งพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย จะต้องพิจารณาวินิจฉัยตามกฎหมายว่า ด้วยตั๋วเงิน คดีปรากฎว่าจำเลยเป็นผู้เซ็นสั่งจ่ายเช็คทั้งสามฉะบับนี้ ให้แก่ผู้ถือ โจทก์เป็นผู้ถือหรือผู้ทรงเช็คเหล่านี้ ตามกฎหมายจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ เว้นไว้แต่จะสืบมาตรา ๙๐๐,๙๐๔,๙๑๖,๙๘๙ เมื่อได้พิเคราะห์พยานจำเลยแล้ว เห็นว่าจำเลยนำสืบไม่ได้ว่าโจทก์กับขุนประเสริฐ ฯ คบคิดกันฉ้อฉลจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิด
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยใช้เงินตามเช็ครวม ๔๘๐๐ บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ย