คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นให้ ด. รับรองว่านายประกันจำเลยมีทรัพย์จริงตามหลักทรัพย์ที่ยื่นต่อศาล ความรับผิดของ ด. มีอย่างไรศาลอาจชี้ขาดในคดีเดิมได้โดยไม่ต้องฟ้องใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ต่อเมื่อทรัพย์ของนายประกันไม่มีตามคำรับรองของ ด. จึงให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งในเรื่องความรับผิดของด.ต่อไป ดังนี้ยังไม่มีข้อใดเสียหายแก่ ด.ด. ฎีกาไม่ได้

ย่อยาว

สำนวนนี้เนื่องจากคดีที่อัยการโจทก์ฟ้องนายเฉลิมกับพวกอีก 4 คนเป็นจำเลยหาว่าฉ้อโกง และกระทำความผิดอันเกี่ยวแก่ห้างหุ้นส่วนบริษัทปลอมหนังสือออกใบรับเงินไม่ปิดอากรแสตมป์ ในระหว่างศาลชั้นต้นพิจารณา นายพิศิษฐ์กับนายปราสัยได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวนายเฉลิมชั่วคราว โดยยื่นหลักทรัพย์ประกัน นายแดงได้รับรองหลักทรัพย์ของผู้ขอประกันตามข้อ 2. แห่งคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวด้วยว่า เป็นความจริงถ้าหากไม่เป็นความจริงนายแดงยอมรับชำระหนี้รายนี้แทนนายประกัน ศาลชั้นต้นจึงอนุญาตให้นายพิศิษฐ์นายปราสัยประกันตัวนายเฉลิมไปโดยตีราคาสามหมื่นบาท ตามสัญญาประกันลงวันที่ 28 มกราคม 2495 และได้สั่งให้นายพิศิษฐ์นายประกันส่งโฉนดที่ดินต่อศาลภายใน 15 วันด้วย

ครั้นต่อมาวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2495 นายแดงผู้รับรองได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า ได้รับโทรเลขจากนายพิศิษฐ์ขอผัดส่งโฉนดที่จะวางศาลไปอีก 1 เดือน ศาลสั่งอนุญาต

ต่อมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2495 นายพิศิษฐ์ นายปราสัยนายประกันนายเฉลิมจำเลย ยื่นคำร้องต่อศาลว่า นางเฉลิมศรีภริยานายเฉลิมจำเลยได้นำใบมรณบัตรแสดงว่านายเฉลิมจำเลยได้ถึงแก่กรรมที่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ มามอบให้นายพิศิษฐ์นายประกันนำมาแสดงต่อศาล ขอให้ศาลสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะตัวนายเฉลิมจำเลย และนายพิศิษฐ์ของดส่งโฉนดที่จะวางศาล ศาลชั้นต้นไต่สวนการตายของนายเฉลิมจำเลยแล้วเชื่อว่านายเฉลิมไม่ตายจริง นายประกันผิดสัญญาให้ปรับนายประกันสามหมื่นบาทตามสัญญา กับให้ชำระค่าปรับภายใน15 วัน ออกหมายจับนายเฉลิมจำเลย และจำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยนี้เสียชั่วคราว เรื่องนายประกันยื่นคำร้องเท็จให้ส่งตัวไปอำเภอสอบสวน กับสั่งว่าสำหรับนายแดงผู้รับรองหลักทรัพย์ เมื่อศาลบังคับนายประกันเดิมไม่ได้เงินแล้ว จึงบังคับให้นายแดงผู้รับรองชำระค่าปรับแทนจนครบ

นายปราสัยนายประกัน นายแดงผู้รับรอง อุทธรณ์คำสั่งศาลที่สั่งให้ปรับ อุทธรณ์ของนายปราสัยอ้างว่า ศาลสั่งปรับนายประกันโดยเชื่อหลักฐานโจทก์ แต่ยังไม่ได้ฟังพยานฝ่ายนายประกันนั้น ยังถือว่านายเฉลิมจำเลยยังมีตัวอยู่จริงไม่ได้ ขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นหรือให้ลดค่าปรับสักกึ่งหนึ่ง ส่วนนายแดงอุทธรณ์ว่าคำรับรองหลักฐานที่นายแดงรับรองไว้นั้นไม่ผูกพันนายแดงและจะปรับทีเดียวไม่ได้ต้องฟ้องก่อน และเป็นหนี้ที่ไม่แน่นอน หรือหนี้ในอนาคตและศาลชั้นต้นยังไม่ได้ส่งอุทธรณ์มาศาลอุทธรณ์

ต่อมาวันที่ 15 กรกฎาคม 2495 นายแดงผู้รับรองยื่นคำร้องต่อศาลว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2495 ตัวแทนของนายแดงแจ้งให้ตำรวจจับนายเฉลิมจำเลยได้แล้วที่จังหวัดพระนคร ขอส่งตัวจำเลยต่อศาล และว่าต้องใช้จ่ายไปในการติดตามจำเลยเป็นเงินหนึ่งหมื่นบาทขอให้งดปรับนายแดง

ศาลชั้นต้นสั่งรับตัวนายเฉลิมจำเลย ส่วนที่นายแดงของดปรับนั้นเห็นว่านายประกันโดยตรงไม่ได้ขอร้องต่อศาล และนายแดงก็ได้อุทธรณ์คำสั่งโต้เถียงความรับผิดชอบอยู่ จึงยังไม่มีเหตุผลจะลดค่าปรับให้ยกคำร้องเสีย

และในวันเดียวกันนี้ นายปราสัยนายประกันยื่นคำร้องขอลดค่าปรับเพราะนายปราสัยกับนายแดงได้ติดตามจับจำเลยร่วมกันจนได้ตัวจำเลยศาลชั้นต้นสั่งว่า นายปราสัยได้อุทธรณ์คำสั่งเรื่องปรับนายประกันไว้ ยังไม่มีเหตุที่จะลดค่าปรับให้ได้

นายปราสัยกับนายแดงต่างอุทธรณ์คำสั่งศาล ขอให้งดปรับหรือปรับในสถานที่เบาที่สุด

ศาลอุทธรณ์พิจารณาคดีแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งปรับนายปราสัยนายประกันจำเลยนั้นชอบแล้ว แต่นายปราสัยน่าจะได้รับความกรุณา เพราะเหตุว่านายปราสัยกับนายแดงได้ช่วยกันติดตามจนจับจำเลยมาส่งศาลได้ ได้เสียค่าใช้จ่ายในการติดตามไปมากแล้ว ควรลดค่าปรับนายประกันลงได้ ส่วนอุทธรณ์ของนายแดงผู้รับรองนั้นศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามคำรับรองของนายแดงเป็นแต่รับรองว่า คำกล่าวอ้างของนายประกันในเรื่องหลักทรัพย์เป็นความจริงเท่านั้น ถ้าไม่จริงจึงจะยอมชำระหนี้แทน แต่เรื่องนี้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวแก่หลักทรัพย์ของนายประกันว่า จะจริงหรือไม่จริงถ้าไม่จริงแล้ว ความรับผิดของนายแดงจึงจะเกิดขึ้น และไม่จำเป็นต้องฟ้องเป็นคดีขึ้นอีก ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่สั่งปรับนายแดงไปทีเดียว จึงพิพากษาแก้คำสั่งศาลชั้นต้น ให้ปรับนายประกันนายเฉลิมจำเลยเป็นเงิน 20,000 บาท (สองหมื่นบาท) ให้ชำระค่าปรับภายใน 15 วัน ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่เกี่ยวกับนายแดงที่สั่งไว้ว่า เมื่อศาลบังคับนายประกันเดิมไม่ได้เงินแล้ว จึงบังคับให้นายแดงผู้รับรองชำระค่าปรับแทนจนครบนั้นเสีย ต่อเมื่อใดไม่ได้ความจริงตามคำรับรองของนายแดงแล้ว จึงให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งได้ต่อไป

นายปราสัยนายประกันฎีกาว่า ได้เสียเงินไปมากจนติดตามจับจำเลยได้แล้ว ขออย่าให้ศาลปรับนายประกันเลย แม้จะปรับก็ขอให้ปรับเพียงเล็กน้อย ส่วนนายแดงฎีกาว่า ถ้าจะต้องรับผิดก็ขอให้ปรับเบาที่สุดและฟ้องเป็นคดีขึ้นใหม่

ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาคดีเรื่องนี้แล้ว เห็นว่าตามที่นายประกันแจ้งต่อศาลว่า นายเฉลิมจำเลยตาย และยื่นใบมรณบัตรนั้น มีชั้นเชิงส่อไปในทางไม่สุจริต มิใช่อ้างแต่เพียงว่า จำเลยหนีตามธรรมดา ยังอ้างส่งใบมรณบัตรด้วย หากแต่ศาลชั้นต้นไต่สวนได้ความจริง จึงมิได้หลงเชื่อตามคำนายประกัน ได้สั่งปรับนายประกันตามสัญญา นายประกันและนายแดงก็พยายามคัดค้านเท่าที่จะกระทำได้เมื่อไม่เป็นผล พรรคพวกของนายแดงจึงบอกให้ตำรวจจับตัวนายเฉลิมมาส่งศาล

เห็นว่า ศาลอุทธรณ์ได้กรุณาลดค่าปรับให้นายประกัน 10,000 บาท(หนึ่งหมื่นบาท) เป็นคุณแก่นายประกัน และสมควรแก่รูปคดีแล้ว

ส่วนนายแดงผู้รับรองนายประกันซึ่งฎีกาว่า ถ้าตนจะต้องรับผิดก็ขอให้ปรับในฐานที่เบาที่สุด และขอให้สั่งพนักงานอัยการฟ้องก่อนที่จะสั่งปรับโทษโดยตรงทีเดียวนั้น เห็นว่าความรับผิดของนายแดงต้องตามหลังนายประกันและไม่จำเป็นต้องฟ้องเป็นคดีขึ้นใหม่ทั้งนี้โดยตามนัยของมาตรา 274 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

ส่วนนายแดงนั้น ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่เกี่ยวกับนายแดงที่สั่งไว้ว่า เมื่อศาลบังคับนายประกันเดิมไม่ได้เงินแล้ว จึงบังคับให้นายแดงผู้รับรองชำระค่าปรับแทนจนครบนั้นเสียต่อเมื่อไม่ได้ความจริงตามคำรับรองของนายแดงแล้ว จึงให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งต่อไป ในชั้นนี้นายประกันยังมิได้ถูกบังคับคดี เป็นแต่เพียงถูกศาลสั่งปรับเท่านั้น ถ้านายประกันนำเงินมาชำระค่าปรับได้ครบถ้วน หรือศาลขายทรัพย์ของนายประกันได้เงินมาใช้ค่าปรับได้ครบถ้วน หรือทรัพย์ของนายประกันมีและเป็นจริงตามคำที่นายแดงรับรองไว้ นายแดงซึ่งเป็นผู้รับรองนายประกันก็ไม่ต้องรับผิด ฉะนั้น เวลานี้นายแดงยังมิได้รับความเสียหายจากผลของการที่รับรองไว้ ไม่จำเป็นที่จะต้องฎีกาและแถลงคดี

เห็นว่าฎีกาของนายปราสัย และฎีกาของนายแดงฟังไม่ขึ้น

จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาของนายปราสัยและฎีกาของนายแดง

Share