แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การใช้สิทธิที่มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 นั้น จะต้องเป็นความเสียหายในสิทธิที่บทบัญญัติกฎหมายรับรองไว้ เมื่อทางน้ำพิพาทที่จำเลยที่ 6ในฐานะผู้เช่าที่ดินมาจากจำเลยที่ 4 และที่ 5 ผู้ทรงสิทธิเก็บกินในที่ดินดังกล่าวได้ขุดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ในการใช้สอยน้ำนั้นมิใช่ทางน้ำสาธารณะ การที่โจทก์ทั้งสี่ขุดทางน้ำต่อจากทางน้ำพิพาทเพื่อชักน้ำให้ไหลเข้าที่ดินของโจทก์ทั้งสี่เพื่อนำไปใช้โดยจำเลยที่ 6 มิได้ทักท้วง เป็นการยินยอมให้โจทก์ทั้งสี่กระทำได้โดยชอบ ไม่เป็นมูลละเมิดต่อจำเลยที่ 6 แต่การชักน้ำดังกล่าวก็มิใช่เป็นสิทธิที่กฎหมายบัญญัติรับรองไว้ และไม่ก่อให้โจทก์ทั้งสี่ได้สิทธิจะใช้ทางน้ำได้ตลอดไป เมื่อจำเลยที่ 6 ปิดทางน้ำของตน จึงมิใช่เป็นการล่วงสิทธิโจทก์ทั้งสี่ตามกฎหมาย แม้โจทก์ทั้งสี่จะเดือดร้อนเพราะการกระทำของจำเลยที่ 6 โจทก์ทั้งสี่ก็ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องร้องขอให้จำเลยที่ 6 เปิดทางน้ำพิพาทได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสี่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 52 โดยมีโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกิน จำเลยที่ 1ที่ 2 และที่ 3 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 53 โดยมีจำเลยที่ 4 และที่ 5 เป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกิน จำเลยที่ 6 เป็นผู้เช่าทำประโยชน์ โจทก์ทั้งสี่ประกอบอาชีพทำสวนโดยได้อาศัยน้ำจากคลองสาธารณะสามปทวนใน ซึ่งไหลผ่านที่ดินของจำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 3 ต่อมาจำเลยที่ 6 ได้ปิดกั้นทางน้ำดังกล่าวทำให้น้ำไม่ไหลเข้าสวนของโจทก์ทั้งสี่เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสี่ได้รับความเสียหายขอให้บังคับจำเลยทั้งหกเปิดคันกั้นน้ำบริเวณที่พิพาท
จำเลยทั้งหกให้การว่า จำเลยที่ 6 เป็นผู้ขุดร่องน้ำไว้ใช้ในสวนโดยรอบ ไม่มีทางน้ำสาธารณะไหลผ่านที่ดิน โจทก์ได้ขออาศัยใช้น้ำจากสวนที่จำเลยที่ 6 เช่าเป็นครั้งคราว จำเลยที่ 6 เป็นผู้ปิดกั้นเพราะโจทก์ทำความเดือดร้อนเสียหายให้แก่สวนที่จำเลยที่ 6เช่า การกระทำของจำเลยที่ 6 เป็นการใช้สิทธิโดยชอบไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ 6 เปิดคันกั้นน้ำบริเวณที่พิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสี่ทันที สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 6 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 6 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าทางน้ำพิพาทที่จำเลยที่ 6 ในฐานะผู้เช่าที่ดินมาจากจำเลยที่ 4และที่ 5 ผู้ทรงสิทธิเก็บกินในที่ดินดังกล่าวได้ขุดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ในการใช้สอยน้ำ มิใช่ทางน้ำสาธารณะ เมื่อโจทก์ทั้งสี่ขุดทางน้ำต่อจากทางน้ำพิพาทที่จำเลยที่ 6 ขุดไว้เพื่อชักน้ำให้ไหลเข้าที่ดินของโจทก์ทั้งสี่และอาศัยน้ำจากคลองสามปทวนใน ที่ไหลผ่านทางน้ำที่จำเลยที่ 6 ขุดนำไปใช้โดยจำเลยที่ 6 มิได้ทักท้วงต่อมาเมื่อจำเลยที่ 6 ปิดกั้นทางน้ำส่วนที่ตนขุด ปัญหาจึงมีว่าจำเลยที่ 6 กระทำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสี่หรือไม่ เห็นว่าการที่จำเลยที่ 6 มิได้ทักท้วงการที่โจทก์ทั้งสี่ขุดทางน้ำชักน้ำจากทางน้ำที่จำเลยที่ 6 ขุดไว้ เป็นการยินยอมให้โจทก์ทั้งสี่กระทำได้โดยชอบ ไม่เป็นมูลละเมิดต่อจำเลยที่ 6 แต่ความยินยอมดังกล่าวก็ไม่ก่อให้โจทก์ทั้งสี่ได้สิทธิจะใช้ทางน้ำได้ตลอดไปการที่จำเลยที่ 6 ปิดทางน้ำของตนเสีย แม้โจทก์ทั้งสี่จะเดือดร้อนเพราะการกระทำของจำเลยที่ 6 แต่โจทก์ทั้งสี่ก็ไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องดังกล่าวกับจำเลยที่ 6 ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองเห็นว่าการปิดกั้นทางน้ำของจำเลยที่ 6 เป็นการใช้สิทธิที่มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสี่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เพราะความเสียหายตามความหมายมาตรานี้ต้องเป็นความเสียหายในสิทธิที่บทบัญญัติกฎหมายรับรองไว้ การที่โจทก์ทั้งสี่ชักน้ำจากทางน้ำของจำเลยที่ 6 ได้นั้นเกิดจากความยินยอมมิใช่เป็นสิทธิที่กฎหมายบัญญัติรับรองไว้ การปิดกั้นทางน้ำของจำเลยที่ 6 จึงมิใช่เป็นการล่วงสิทธิโจทก์ทั้งสี่ตามกฎหมายฎีกาจำเลยที่ 6 ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 6นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์