คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยยืมเครื่องมือก่อสร้างไปจากโจทก์เมื่อปี 2532 โดยจะนำมาส่งคืนเมื่อแล้วเสร็จหรือทวงถาม หลังจากนั้นโจทก์ไม่พบจำเลยอีกเลยจนปี 2537โจทก์พบจำเลยและทวงถามถึงเครื่องมือดังกล่าวแต่จำเลยปฏิเสธ ถือได้ว่าโจทก์ทราบว่า จำเลยมีเจตนาเบียดบังเอาเครื่องมือของโจทก์ไปในวันที่ทวงถามซึ่งเป็นวันที่โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด อายุความเริ่มนับตั้งแต่วันนั้น เมื่อโจทก์แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในวันดังกล่าว คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 353

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก จำคุก 2 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก1 ปี 4 เดือน คำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 หรือไม่ ซึ่งในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 222 ซึ่งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัย รับฟังเป็นยุติได้ว่าจำเลยได้ยืมเครื่องมือก่อสร้างตามฟ้องไปจากโจทก์ตามบันทึกการยืมเอกสารหมาย จ.2 ซึ่งลงวันที่การยืมไว้คือวันที่ 22 มิถุนายน 2532วันที่ 3 และ 19 กรกฎาคม 2532 ระบุข้อความว่าจะนำมาส่งคืนเมื่อแล้วเสร็จหรือทวงถาม หลังจากจำเลยยืมเครื่องมือก่อสร้างไปแล้วโจทก์ก็ไม่พบจำเลยอีก มาพบจำเลยอีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคม 2537โจทก์ทวงถามถึงเครื่องมือก่อสร้างที่จำเลยยืมไปแต่จำเลยปฏิเสธถือได้ว่าโจทก์ทราบว่าจำเลยมีเจตนาเบียดบังเอาเครื่องมือก่อสร้างของโจทก์ไปในวันที่ 15 ธันวาคม 2537 วันดังกล่าวจึงเป็นวันที่โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดคดีนี้และอายุความเริ่มนับตั้งแต่วันนั้น ดังนั้น เมื่อโจทก์แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในวันที่ 15 ธันวาคม 2537 คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share