คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยครั้งหนึ่ง ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์สืบไม่ได้ความแน่นอนว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน โจทก์จึงกลับมาฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินรายเดียวกันอีก ดังนี้เป็นการฟ้องซ้ำ เพราะเมื่อโจทก์สืบไม่สมตามคำฟ้อง ศาลก็พิพากษายกฟ้องได้ โดยไม่จำเป็นต้องชี้ขาดว่า ที่ดินนั้นเป็นของจำเลยหรือของใคร จึงถือได้ว่า ในคดีก่อนศาลได้ชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การว่า ที่ดินไม่ใช่ของโจทก์ และโจทก์ได้ฟ้องขับไล่จำเลยในคดีก่อนศาลได้พิพากษายกฟ้องมาแล้วครั้งหนึ่ง ตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ ๑๒๓/๒๔๘๙ โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยในกรณีและประเด็นเดียวกัน โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง ศาลชั้นต้นสอบโจทก์ ๆ รับว่า ที่ดินที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ โจทก์เคยฟ้องขับไล่ตามคดีแพ่งแดงที่ ๑๒๓/๒๔๘๙ ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีก่อนยังไม่ได้ชี้ขาดว่าที่ดินรายพิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่ดินเป็นของโจทก์ พิพากษาให้ขับไล่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการฟ้องซ้ำ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีก่อนกับคดีนี้ คู่ความคนเดียวกัน คำฟ้องและประเด็นในคดีก็เหมือนกัน และเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลในคดีก่อนเป็นคำชี้ขาดในประเด็นที่ว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินรายพิพาทนี้หรือไม่ การฟ้องคดีนี้จึงเป็นการฟ้องซ้ำ โจทก์คัดค้านว่า ศาลจะต้องชี้ขาดว่า ที่ดินเป็นของใคร แล้วจึงจะได้ชื่อว่า ได้ชี้ขาดในประเด็นนั้น เห็นว่า เมื่อโจทก์สืบไม่สมตามคำฟ้อง ศาลก็พิพากษายกฟ้องได้ โดยไม่จำเป็นต้องชี้ขาดว่า ที่ดินนั้นเป็นของจำเลยหรือของใคร
พิพากษายืน

Share